เมื่อวันที่ 7 ธ.ค. 2566 จากกรณี พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม หัวหน้าพนักงานสอบสวนชุดคดีลักลอบนำเข้าหมูเถื่อน กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พร้อมชุดปฏิบัติการพิเศษ และเจ้าหน้าที่จากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม เข้าตรวจค้นเป้าหมาย 3 จุด ซึ่งเป็นบริษัทห้องเย็น 2 จุด และบ้านพัก 1 จุด ในพื้นที่ ต.ทุ่งน้อย อ.เมืองนครปฐม จ.นครปฐม ซึ่งเป็นบริษัทห้องเย็นที่พบข้อมูลเส้นทางการเงินเกี่ยวข้องกับบริษัทนำเข้าหมูเถื่อน สองพ่อลูกดอนเมืองที่ถูกดำเนินคดีไปก่อนหน้านี้
โดย พ.ต.ต.ณฐพล กล่าวว่า ข้อมูลจากการสืบสวนพบว่า เจ้าของของบริษัทห้องเย็นแห่งนี้โอนเงินให้กับ 2 พ่อลูก ที่ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีนำเข้าหมูเถื่อน รวม 220 ล้านบาท ในช่วงปี 2565-2566 โดยไม่มีการทำนิติกรรมระหว่างกัน จึงเป็นเหตุให้ทางพนักงานสอบสวนดีเอสไอ ขอหมายจับจากศาลอาญา 3 หมาย และเข้าตรวจค้นในวันนี้
จากการตรวจค้นเป้าหมายแรก เป็นโกดังแช่เย็น พบเนื้อหมูแช่แข็งอยู่ในห้องเย็นของบริษัท เป็นประเภทเนื้อหมูสามชั้นจำนวน 7 ตัน และพบเอกสารบางส่วน จุดที่ 2 เป็นโกดังแช่เย็น โดยพบเนื้อหมูแช่แข็งจำนวนมาก ขณะนี้อยู่ระหว่างเจ้าหน้าที่กรมปศุสัตว์ประจำจังหวัดเข้าตรวจสอบ ส่วนจุดที่ 3 เป็นบ้านพักของเจ้าของบริษัทโกดังแช่เย็นทั้ง 2 แห่ง โดยเจ้าหน้าที่มีเป้าหมายเข้าไปตรวจค้นเอกสารที่เกี่ยวข้องกับเส้นทางการเงิน ที่พบว่ามีการโอนเงินให้กับผู้ต้องหาในคดีนำเข้าหมูเถื่อนสองพ่อลูก
ขณะที่ชาวบ้านที่พักอาศัยอยู่ใกล้เคียงโกดังแห่งแรก ให้ข้อมูลว่า ได้รับผลกระทบจากกลิ่นเน่าเหม็นจากกองขยะหน้าโรงงาน และยังมีการปล่อยน้ำเน่าเสียลงลำคลองสาธารณะจนทำให้น้ำเน่าเสีย อีกครั้งตลอดหลายปีที่ผ่านมา คนในบ้านมีอาการป่วยจากโรคผิวหนัง คาดว่ามาจากผลกระทบดังกล่าว
นอกจากนี้ ชาวบ้านใกล้เคียงโรงงานยังได้รับผลกระทบเสียงดังรบกวนจากเครื่องจักร ซึ่งเคยแจ้งองค์การบริหารส่วนตำบลทุ่งน้อยให้เข้ามาตรวจสอบแล้ว พบว่าปัญหาลดลง แต่ก็ยังส่งผลกระทบอยู่
ต่อมาเวลา 12.00 น. ภายหลังเสร็จสิ้นการตรวจค้นเบื้องต้นสำหรับ 3 พื้นที่เป้าหมาย พ.ต.ต.ณฐพล กล่าวว่า จากการเข้าตรวจค้นวันนี้ เราได้พบเอกสารสำคัญที่เกี่ยวกับความเชื่อมโยงในการซื้อขายชิ้นส่วนสุกร ซึ่งเจ้าหน้าที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ได้ทำการตรวจยึดไว้เรียบร้อยแล้ว ส่วนชิ้นส่วนสุกรที่พบในวันนี้นั้น
ทางเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ได้ดำเนินการอายัดไว้ตรวจสอบ พร้อมกับกล่าวโทษต่อผู้กระทำความผิดแล้ว ส่วนเนื้อหมูที่พบในห้องเย็นวันนี้ทราบว่ามีการสั่งจากพื้นที่ในจังหวัดนครปฐมและนอกตัวจังหวัดนครปฐม จากนั้นจะทำการบรรจุสินค้าคล้ายแพ็กเกจสำหรับส่งร้านชาบู และส่งจำหน่ายภายในประเทศไทย ไม่ได้จัดส่งต่างประเทศ และสำหรับพื้นที่เป้าหมายที่เป็นบ้านพัก ดีเอสไอได้เข้าตรวจค้นแล้วไม่พบเจ้าของบ้าน มีเพียงพนักงาน และไม่พบสิ่งของผิดกฎหมายในบ้านพักแต่อย่างใด
ด้าน น.ส.ขนิษฐา พืชพันธุ์ นายสัตวแพทย์ชำนาญการ ปศุสัตว์อำเภอเมืองนครปฐม กล่าวว่า ของกลางหมูสามชั้น 7 ตัน เราจะทำการอายัดไว้ และกล่าวโทษกับผู้กระทำผิด ซึ่งในกระบวนการ เราตะทำเอกสารการอายัด และจะนำหมูสามชั้นไปชั่งน้ำหนัก ลงบันทึกประจำวันกับ สภ.สามควายเผือก ซึ่งจะเสร็จสิ้นหน้าที่ของทางปศุสัตว์
ส่วนเรื่องของการสำแดงสินค้า ในห้องเย็นดังกล่าวทางตัวแทนได้มีการแสดงเอกสารการเคลื่อนย้าย แต่ส่วนที่เราดำเนินคดีคือส่วนที่ผู้ประกอบการไม่มีเอกสารการเคลื่อนย้าย ซึ่งสัดส่วนจำนวนหมูในห้องเย็นนั้นมี 7 ตัน แต่เอกสารที่นำมาสำแดงยังไม่ครบทั้ง 7 ตัน จึงต้องรอทางผู้จัดการของห้องเย็นนำเอกสารมาชี้แจง หรือนำเอกสารสำแดงสินค้ามามอบให้ทางปศุสัตว์ก่อน เพื่อความชัดเจน และต้องดูความถูกต้อง
แต่จากการดูด้วยตาเปล่าของหมูที่พบ ยังไม่สามารถสรุปหรือจำแนกลักษณะได้ว่าเป็นหมูนอกหรือหมูไทย เพราะว่าส่วนที่พบอยู่ในห้องเย็นคือส่วนที่สำแดงเป็นเนื้อหมู ไม่มีอะไรที่ระบุหรือบ่งชี้ได้ว่าหมูในห้องเย็นวันนี้เป็นหมูที่มีที่มาจากไหน จึงต้องตรวจสอบกับทางห้องเย็นก่อน
ขณะที่นายสัตวแพทย์ปรีดา ถาวรประดิษฐ์ ปศุสัตว์จังหวัดนครปฐม กล่าวว่า จังหวัดนครปฐม คือ จังหวัดที่ประกาศเป็นเขตควบคุมโรคอหิวาห์ในสุกร ห้ามมิให้ผู้ใดเคลื่อนย้ายสัตว์ในเขตห้ามเคลื่อนย้ายโดยมิได้รับอนุญาต หากฝ่าฝืนจำคุกไม่เกินสองปีหรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตาม พ.ร.บ.โรคระบาดสัตว์ พ.ศ. 2558 มาตรา 22
นอกจากนี้ ภายหลังจากดูลักษณะของห้องเย็นแห่งนี้ จะต้องเชิญเจ้าหน้าที่เจ้าหน้าที่กระทรวงอุตสาหกรรมและเจ้าหน้าที่กระทรวงพาณิชย์เข้ามาร่วมด้วย เพราะต้องพิจารณาการขึ้นทะเบียนให้ห้องเย็น และเรื่องแรงงานคนก็ต้องประสานกับกระทรวงแรงงานเข้ามาตรวจสอบ รวมถึงประสานไปยังสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดนครปฐมด้วย ซึ่งตนยอมรับว่าในพื้นที่จังหวัดนครปฐมมีโรงฆ่าหมูและห้องเย็นจำนวนมาก