กรณีเหตุการณ์ เจ้าหน้าที่บุกค้นโรงงานเครื่องสำอาง หลังพนักงานรายหนึ่งร้องเรียนขอความช่วยเหลือว่าเกิดอุบัติเหตุจากการทำงาน ถูกน้ำร้อนลวกตัวจนเป็นแผลสาหัสแต่เจ้าของโรงงานให้เงินมา 1500 บาทและให้เซ็นใบลาออกต้องยอมออกมารักษาตัวทำงานอะไรก็ไม่ได้ จนทางน.1และอย.ไปบุกตรวจโรงงานและพบว่ามีผลิตภัณฑ์ไม่ได้มาตรฐานหลายชนิด
ทางเจ้าหน้าที่เปิดภาพจากกล้องวงจรปิดนาทีลูกจ้างโรงงานครีมเถื่อนถูกน้ำร้อนราดทั้งตัวขณะทำงาน ในภาพลูกจ้างคนดังกล่าวและเพื่อนร่วมงานกำลังยกกะละมังครีมที่เพิ่งต้มเสร็จร้อนๆมาวางเก็บไว้ แต่เกิดเสียจังหวะล้มลงทำให้น้ำร้อนๆในกะละมังหกราดเต็มตัวช่วงล่างของเธอ ควันขึ้นฟุ้งไปทั่ว ด้านลูกจ้างสาวดิ้นและกรีดร้องเสียงดัง
ต่อมา ในวันที่ 7 ธันวาคม 2566 ทีมผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังซอยสุขสวัสดิ์ 2 เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงเพิ่มเติมเกี่ยวกับโรงงานครีมเถื่อนที่เป็นข่าว พบว่าโรงงานดังกล่าวเป็นทาวน์โฮม 2 หลังติดกัน ที่นำมาเปิดใช้เป็นโรงงานผลิตสินค้าคอสเมติก จากนั้นได้พบกับนายฐิติวัชร์ เจ้าของโรงงาน ได้พาทีมข่าวเดินชมจุดต่างๆ ในไลน์การผลิตของโรงงาน ซึ่งอุปกรณ์เครื่องมือต่างๆ ถูกจัดวางไว้อย่างเป็นระเบียบ แตกต่างจากภาพที่ถูกเผยแพร่ออกมาก่อนหน้า
นายฐิติวัชร์ ได้เปิดเผยกับทีมข่าวว่า โรงงานตนเปิดมา 10 กว่าปีแล้ว ผลิตสินค้าคอสเมติก เช่น แชมพู ครีมนวด สบู่ ครีม ฯลฯ ยอมรับว่าภาพที่ปรากฏออกไปเป็นโรงงานของตนจริง ไม่ว่าจะเป็นภาพที่นั่งกับพื้นและใส่ชุดทั่วไปทำผลิตภัณฑ์ต่างๆ ทำดูไม่เหมาะสมก็ต้องขออภัย และอยากชี้แจงว่าทางโรงงานมีชุดยูนิฟอร์มและระบบการผลิตที่ได้มาตรฐาน แต่เป็นความหละหลวมและบางครั้งเร่งรีบ จึงไม่เคร่งครัดกับพนักงานทำให้สวมใส่ ซึ่งน้อมรับและจะนำไปปรับปรุงแก้ไข
พร้อมกันนี้ นายฐิติวัชร์ ยืนยันว่า อุปกรณ์ต่างๆ ในการผลิต เป็นไปตามมาตรฐาน ส่วนที่ต้องนำผลิตภัณฑ์ใส่กะละมังนำมาวางกับพื้นเป็นขั้นตอนพักผลิตภัณฑ์ เพราะจะต้องผ่านการต้มมาก่อน เราต้องพักให้เย็น และที่ต้องใส่กาละมังพลาสติกเพราะช่วยระบายความร้อนได้เร็วกว่าสแตนเลส และเราเปลี่ยนกาละมังทุกๆ 2 เดือน ที่ผ่านมาทาง อย. ได้เข้ามาตรวจสอบมาตรฐานโรงงานทุกๆ สองปี ซึ่งตนได้นำข้อผิดพลาดหรือสิ่งที่ไม่ถูกต้องมาปรับปรุงโดยตลอด ซึ่งหากทางสังคมมองว่าไม่เหมาะสมตนก็พร้อมที่จะเปลี่ยนแปลงและแก้ไข
และที่มีคลิปปรากฏภาพหนูตกลงไปในกะละมังผลิตภัณฑ์ ภาพนี้เป็นภาพเก่าเมื่อปีที่แล้ว และหลังจากเกิดเหตุการณ์นั้นทางโรงงานได้นำผลิตภัณฑ์ดังกล่าวไปทิ้งโดยทันทีไม่ได้นำไปบรรจุขายให้กับลูกค้าแต่อย่างใด ตนอยู่ในวงการนี้มานานหลายสิบปี จะไม่นำเรื่องแค่นี้มาทำให้โรงงานเสียชื่อเสียงแน่นอน
ส่วนเรื่องอุบัติเหตุที่มีคนงานได้รับบาดเจ็บ ยืนยันว่าทางโรงงานเข้าไปดูแลตลอด การติดต่อประสานงานพูดคุยกันตลอด และยังบอกผู้บาดเจ็บว่า หากรักษาตัวเสร็จแล้วให้กลับมาทำงานได้เหมือนเดิม หรือขาดตกสิ่งไหนให้ติดต่อมาบอกได้ เงินที่จ่ายไปให้ 1500 บาทเป็นการดูแลเบื้องต้น และมีขั้นตอนประสานประกันสังคมให้ดูแลเรื่องค่าใช้จ่ายพยาบาลทั้งหมดแล้ว
และเรื่องที่มีการเผยแพร่ออกไป ตนเชื่อว่าเป็นการดิสเครดิต เพราะเรื่องราวต่างๆ เกิดขึ้นเป็นเดือนแล้ว แต่มีสมาชิกในโรงงานคนนึงที่มีปัญหากับโรงงาน ได้พูดกับเพื่อนๆในที่ทำงานว่าจะทำการดิสเครดิตโรงงานและจะให้หน่วยงานมาตรวจสอบ และไปปลุกปั่นผู้บาดเจ็บให้เกิดเรื่องดังกล่าว จึงอยากขอชี้แจงและขอความเป็นธรรมให้บริษัทตนด้วย ยืนยันว่าบริษัทมีใบจดแจ้งถูกต้องตามกฎหมาย ไม่ได้เป็นโรงงานเถื่อนตามข่าวที่ปรากฏออกไป