ยังคงเป็นประเด็นที่หลายคนสนใจและติดตามกันมาอย่างต่อเนื่องในช่วงสัปดาห์นี้ สำหรับคดีของ สมรักษ์ คำสิงห์ เจ้าของฉายา "วีรบุรุษโอลิมปิก" และวลีเด็ด "ไม่ได้โม้" ซึ่งนอกจากเส้นทางนักชกที่ประสบความสำเร็จของสมรักษ์แล้ว สมรักษ์ยังเคยทำธุรกิจอย่างน้อย 2 บริษัทด้วยกัน
และพบว่า สมรักษ์ คำสิงห์ เคยทำธุรกิจ ทั้งปั๊มน้ำมัน และร้านอาหารปิ้งย่างเกาหลี รวมเงินลงทุน 2 ธุรกิจกว่า 1,500,000 บาท
ซึ่งก่อนหน้านี้ ทาง ฐานเศรษฐกิจ ได้รายงานข้อมูลการทำธุรกิจที่ผ่านมาของสมรักษ์ มีรายละเอียดดังนี้
ห้างหุ้นส่วนจำกัด สมรักษ์ คำสิงห์ บริการ ประกอบกิจการสถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิง จดทะเบียนจัดตั้งเมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2538 ด้วยทุนจดทะเบียน 500,000 บาท วันที่ร้างวันที่ 25 ธันวาคม 2555
มีรายชื่อกรรมการ 3 ราย คือ
นางคุณมี คันนู (ผู้มีอำนาจลงนาม) ลงหุ้นด้วย เงินสด จำนวน 200,000.00 บาท
พันจ่าเอกสมรักษ์ คำสิงห์ ลงหุ้นด้วย เงินสด จำนวน 150,000.00 บาท
นางเสาวนีย์ คำสิงห์ ลงหุ้นด้วย เงินสด จำนวน 150,000.00 บาท
ห้างหุ้นส่วนจำกัด สมรักษ์ ย่างเกาหลี ประกอบกิจการร้านอาหาร จดทะเบียนจัดตั้งเมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2546 ด้วยทุนจดทะเบียน 1,000,000 บาท วันที่ร้างวันที่ 14 มีนาคม 2554
มีรายชื่อกรรมการ 3 ราย คือ
นางเสาวนีย์ คำสิงห์ (ผู้มีอำนาจลงนาม) ลงหุ้นด้วย เงินสด จำนวน 700,000.00 บาท
นายสมรักษ์ คำสิงห์ ลงหุ้นด้วย เงินสด จำนวน 150,000.00 บาท
นายธีระวงศ์ คันนู ลงหุ้นด้วย เงินสด จำนวน 150,000.00 บาท
ทั้งนี้ ในปี 2561 ศาลล้มละลายกลางได้มีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของ นายสมรักษ์ คําสิงห์ ลงวันที่ 21 กันยายน 2561 ให้พิทักษ์ทรัพย์ของ นายสมรักษ์ไว้เด็ดขาด ตั้งแต่วันที่ 9 สิงหาคม 2561 จนกระทั่งศาลล้มละลายกลางได้มีคําสั่งยกเลิกการล้มละลายของ นายสมรักษ์ เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2562
นอกจากนี้ยังพบว่า เบสต์ รักษ์วนีย์ ลูกสาว ที่โด่งดังจากการเป็นยูทูบเบอร์ ได้จดทะเบียนเปิด บริษัท ไม่ได้โม้ จำกัด ซึ่งมีทุนจดทะเบียนที่ 1,000,000 บาท (หนึ่งล้านบาท) ในประเภท กิจกรรมการผลิตภาพยนตร์และวีดิทัศน์ ทั้งนี้จากข้อมูลงบปี 2565 พบว่า มีรายได้ 8.48 ล้าน และมีกำไร 2.34 ล้านบาท อีกทั้งยังมีแบรนด์เครื่องสำอาง และสกินแคร์ของตัวเอง ชื่อ BestLove ด้วย