จากเป็นประเด็นร้อนที่ถูกพูดถึงอย่างมากในโลกออนไลน์ กับกรณี “อาจารย์น้องไนซ์” เด็กชายวัย 8 ขวบ ที่อ้างว่าเป็นร่างอวตารองค์เพชรภัทรนาคานาคราชและสามารถเชื่อมจิตกับเหล่าสาวก สามารถล่วงรู้อดีตและอนาคต แถมยังมีการเปิดคอร์สเชื่อมจิต ซึ่งก็มีประชาชนที่ศรัทธาเข้าร่วมกิจกรรมกันเป็นจำนวนมาก
เกี่ยวกับประเด็นดังกล่าว ล่าสุดวันที่ ( 16ธ.ค.66 ) "ทีมข่าวไทยนิวส์" ได้ลงพื้นที่ไปยัง “วัดสวนแก้ว“ เพื่อสัมภาษณ์ "พระพยอม กัลยาโณ" เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว ต.บางเลน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี โดย พระพยอม กล่าวว่า
เราไม่รู้ตอนนี้ตัวของไนซ์ ดังด้วยความอัจฉริยะที่มีความรู้มากมาย ดังด้วยการมีฤทธิ์มีเดชหรือดังเพราะมีทีมปั้นขึ้นมา ซึ่งหากทำด้วยความรู้สึกบริสุทธิ์ใจและไม่ต้องการลาภผลอะไรก็เป็นเรื่องที่น่าสนับสนุน แต่หากดังเพราะมีทีมปั้นขึ้นมาเพื่อผลประโยชน์ใดๆ คงจะต้องจับตาดูไประยะหนึ่งก่อน เนื่องจากตอนนี้ก็ทราบมาว่า ได้มีการเรียกเรี่ยไรเงินมีการจัดคอร์สต่างๆ ขึ้นมา รวมถึงประเด็น "เรื่องของการเชื่อมจิตกับเหล่าสาวกนั้น ซึ่งก็ไม่เคยพบว่ามีในพระพุทธศาสนามาก่อน" อยากจะให้ลองติดตามดูไปก่อนอีกระยะหนึ่ง
“อย่าเพิ่งรีบตัดสินว่าเขาเป็นผู้วิเศษ แต่ก็อย่าเพิ่งรีบปฏิเสธว่าเขาเป็นคนใช้ไม่ได้” หากเขาดีจริงเขาจะอยู่ได้นาน แต่หากไม่ดีจริงไม่นานก็จะหายไปเอง เชื่อว่าไม่เกิน 5-6 เดือนคงจะได้เห็นกัน
ส่วนประเด็นดังกล่าวนั้นกระทบกับพุทธศาสนาหรือไม่นั้น มองว่าหากสิ่งตัวน้องไนซ์นำไปสอนแก่เหล่าสาวกนั้นผิดจากหลักธรรมคำสอนก็คงต้องมีผลกระทบอย่างแน่นอน เพราะตัวของน้องไนซ์เองก็มีการนำเอาพระพุทธศาสนามาใช้ในการสอนเหล่าสาวกในปัจจุบัน ดังนั้นแล้วการถือหลักพระพุทธศาสนาเฉกเช่นที่เคยเป็นมาจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุด
นอกจากนี้ พระพยอม ยังกล่าวอีกว่า ชาวพุทธในปัจจุบันพลัดหลักคลาดเคลื่อนมีการขวนขวายไปหาผู้ที่มีฤทธิ์หรือเทพต่างๆ เพื่อกราบไหว้บูชาใจกว้างเปิดรับทุกอย่างเข้ามาจนทำให้พุทธศาสนาในปัจจุบันเกือบจะต้องถูกกลืนหายไป