บุ๋ม ปนัดดา ลุยดำเนินคดี หลังถูกตัดต่อภาพลงกลุ่มลับ มีดาราโดนกันเพียบ

วันนี้ 18 ธ.ค.2566 กรณีที่ กระทรวงดิจิทัลฯ ร่วม ตร.และ สอท. ร่วมแถลงข่าวจับ 3 คดี ที่ประชาชนส่วนใหญ่หลงกล จับแก๊งหลอกโหลด App ดูดเงิน อายัดเงินได้ทัน 9.6 แสนคืนผู้เสียหาย จับแก๊งรับจ้างตัดต่อภาพลามกอนาจารผ่านกลุ่มลับ VK และจับเครือข่ายเว็บพนันออนไลน์ SLOTKUB ยึดของเก่าและทรัพย์สินกว่า 20 ล้านบาท พบเงินหมุนเวียนกว่า 200 ล้านบาทต่อปี

  โดยสืบเนื่องจาก ดีเจต้นหอม หรือ นางสาวศกุนตลา เทียนไพโรจน์ เหยื่อที่ถูกนำรูปมาตัดต่อในแอปพลิเคชัน VK ก็ได้เดินทางมาขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจในการดำเนินการครั้งนี้ รวมไปถึง ดร.บุ๋ม ปนัดดา วงศ์ผู้ดี ก็เดินทางเข้ามาร้องเรียนกับเจ้าหน้าที่ สอท. พร้อมให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน โดยเปิดเผยว่า ตนเองได้รับแจ้งมาว่ามีดารากว่า 30 คนที่โดนในลักษณะเดียวกับตนเอง และไม่คิดว่าตนเองจะเป็นเหยื่อ

 หลังมีผู้หวังดีส่งภาพมาให้ดู เป็นการตัดต่อด้วยระบบ AI ที่เนียนมาก มีการแชร์ผ่านกรุ๊ปไลน์ และยังบอกด้วยว่าเสียดายองค์ความรู้ของผู้ตัดต่อน่าจะไปอาชีพที่ดีกว่านี้ พร้อมฝากบอกไปยังเพื่อนร่วมอาชีพว่าอย่าไปยอมเรื่องพวกนี้เพราะเค้าทำแล้วจะได้ใจ อยากให้เข้ามาแจ้งความเพื่อที่จะได้ดำเนินคดีและขยายผลจับกุมผู้กระทำความผิดเหล่านี้

   สำหรับการ แถลงจับกุมแก๊งรับจ้างตัดต่อภาพลามกอนาจารผ่านกลุ่มลับแอปฯ VK โดยคนร้าย มีพฤติกรรมเผยแพร่ข้อมูลภาพลามกอนาจารของผู้อื่น ซึ่งเกิดจากการตัดต่อเปลี่ยนแปลงจากภาพถ่ายปกติ  

โดย พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. ได้สั่งการให้เร่งสืบสวนกรณีดังกล่าว จนทราบว่าคนร้ายได้นำ ภาพถ่ายของบุคคลอื่นมาตัดต่อให้เป็นภาพโป๊เปลือยแล้วโพสต์ลงในแอปพลิเคชัน VK ใช้ชื่อบัญชี "รบกวนตัดออกให้ที" ซึ่งมีผู้ติดตามประมาณ 1.2 แสนราย

 ​​​​​นอกจากนี้ ยังมีการโพสต์ข้อความรับจ้างตัดต่อภาพผู้อื่นให้เป็นภาพโป๊เปลือย หรือรับเข้าเป็นสมัครชิกกลุ่มวีไอพีชื่อ "ชุมชนช่างตัดเสื้อ รวมทั้งเปิดให้เช่า ใช้งานโปรแกรม AI สำหรับตัดต่อภาพโป๊เปลือย โดยรับชำระเงินผ่านระบบทรูมันนี่ วอลเล็ท ในรูปแบบของดั่งเปา ทั้งนี้ สมาชิกที่เสียเงิน สามารถดูภาพตัดต่อโป๊เปลือยของผู้อื่น

   ซึ่งถูกตัดต่อไว้แล้วโดยใช้โปรแกรมระบบ AI  โดยมีแอดมินที่เชื่อว่ามีความรู้ความสามารถทางด้านคอมพิวเตอร์เป็นอย่างดีในการทำหน้าที่ควบคุมกลุ่มดังกล่าว จากการตรวจสอบเส้นทางการเงิน สามารถนำไปสู่การออกหมายจับผู้ต้องหาได้จำนวน 2 ราย ซึ่งเป็นผู้รับผลประโยชน์จากการร่วมกันกระทำความผิดดังกล่าว