ถือเป็นอีกหนึ่งประเด็นที่ได้รับความสนใจอย่างมาก หลังจากจบรายการโหนกระแส เมื่อเทปวันที่ 18 ธันวาคม 2566 เกี่ยวกับประเด็นดราม่าร้อน "อาจารญ์น้องไนซ์" ที่ถูกพูดถึงและตามมาด้วยข้อถกเถียงกันสนั่นโซเชียล ล่าสุด "แพรรี่ ไพรวัลย์" ได้ออกมาโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ไพรวัลย์ วรรณบุตร ระบุฝากข้อความถึง แม่น้องไนซ์ ระบุเอาไว้ว่า
พระอนาคามีเนี่ย คุณสมบัติเฉพาะข้อหนึ่งในทางธรรม คือท่านสามารถละอุทธัจจะ คือความฟุ้นซ่านทางกายและทางใจได้อย่างเด็ดขาดค่ะ แต่ลูกคุณยังกระโดดเป็นลิงเป็นค่างตามประสาเด็กอยู่เลย ยังพูดเรื่องเท็จว่า พระพุทธเจ้าเกลียดดอกไม้สีเหลืองอยู่เลย แบบนี้ เอาอะไรมาอนาคามีก่อน และโดยข้อธรรมนะคะ ผู้ที่มาจากพรหมโลกเช่นพระอนาคามีรังเกียจการถูกต้องตัวสตรีค่ะ แต่ลูกคุณยังจิ้มนิ้วใส่ผู้หญิงอยู่เลย นี่ก็ไม่ก็สอดคล้องกับข้อธรรมล่ะ
อย่าว่าแต่จะเป็นถึงพระอนาคามี พระโสดาบันก็ไม่เฉียดแล้วลูกคุณเนี่ย เพราะพระโสดาบันมีข้อหนึ่งคือต้องละศีลพตปรามาสได้เด็ดขาด วันนัันดิฉันยังเห็นลูกคุณเอาพวงมะลิไว้พระพิฆเนศอยู่เลย อันนี้มันพุทธส่วนไหน (ว๊ะ)
ที่สำคัญสิ่งที่คุณต้องรู้ก็คือ ภาวะหรือความเป็นพระอริยบุคคลเนี่ย มันถูกอธิบายไว้อย่างครบถ้วนชัดเจนโดยพระพุทธเจ้าที่เป็นสัพพัญญูแล้วค่ะ มีพุทธวจนะรับรองคุณสมบัติและภูมิธรรมของพระอริบบุคคลชั้นนั้นๆ ว่าเป็นอย่างไร คือมันตรวจสอบได้
มันไม่ใช่เรื่องที่คุณหรือใครจะมาอธิบายโดยส่งเดช หรือบอกว่า มีแต่คนที่เข้าถึงเท่านั้นถึงพูดได้ มันตลกค่ะเจ๊
เรื่องนี้มันผิดตรงไหนรู้ไหมคะ มันผิดตรงที่พอเด็กพูดอะไรแล้วพ่อแม่ก็ไปรับรองคำพูดของเด็กว่าถูกต้องทั้งหมด ไปรับรองพฤติกรรมแปลกๆ ที่เด็กทำว่า เป็นเรื่องอัศจรรย์ไปเสียหมด แบบนี้ใช้ไม่ได้เลยค่ะ
พ่อแม่เนี่ย เวลาได้เห็นหรือได้ยินลูกพูดอะไร ทำอะไรแปลกๆ ถ้าตัวเองไม่มีความรู้ ก็ควรไปสอบถามเอาจากผู้รู้ค่ะ จะได้สร้างความเข้าใจที่ถูกต้องร่วมกัน จะได้นำกลับไปสอนลูกใหม่ ให้ลูกมีความรู้และความเข้าใจที่ถูกทาง
พ่อแม่ที่ดีควรเป็นแบบนี้ค่ะ ไม่ใช่พ่อแม่ประเภทที่โบ้ยทุกอย่างให้ลูก แถมเถียงแบบข้างๆ คูๆ ไปเรื่อย
ที่มาเฟซบุ๊ก ไพรวัลย์ วรรณบุตร