อาลัย หมอเชอรี่ ถูกอดีตสามีบุกลั่นไกดับในบ้าน ย้อนดูโพสต์เหมือนเป็นลาง

จากข่าวสะเทือนเกิดเหตุ "จ่าสิบเอกบุกยิงผอ.รพ.สต." แห่งหนึ่งซึ่งเป็นอดีตภรรยา หลังหย่าร้างกันได้ 3 เดือน เสียชีวิตในบ้านพักในซอยอิ่มวิทยา หมู่ 12 ตำบลหัวรอ อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลกก่อนที่จะลั่นไกดับตาม โดยขณะเกิดเหตุไม่มีคนอื่นอยู่หรือเห็นเหตุการณ์ ได้ยินแต่เสียงปืน ญาติพี่น้องซึ่งพักอาศัยอยู่บ้างใกล้เคียงกันที่ทราบข่าว พากันมาติดตามเหตุการณ์และต่างก็ตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น 

ไม่คาดคิดว่าจะเกิดความรุนแรงถึงขั้นที่จะต้องใช้อาวุธปืน เพราะทั้งสองเป็นสามีภรรยาที่อยู่ด้วยกันมานานถึง 15 ปี มีลูกด้วยกัน 2 คน อายุ 14 ปี และ 4 ขวบ ก่อนจะหย่าร้างกันเมื่อประมาณ 3 เดือนก่อน เนื่องจากปัญหาภายในครอบครัว แต่ก็ยังคงแวะเวียนมาดูแลลูกด้วยกันอยู่บ้าง 

ตามรายงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจคาดว่าผู้ชายน่าจะใช้อาวุธปืนยิงผู้หญิง และใช้อาวุธปืนยิงตัวเองตาม ซึ่งจะมีการสวบสวนหาแรงจูงใจอื่นต่อไป

ความคืบหน้าล่าสุด(18 ธ.ค.2566) ญาติของทั้ง 2 ครอบครัว รับร่างผู้เสียชีวิตทั้ง 2 ราย ไปตั้งสวดพระอภิธรรม โดยร่าง จ.ส.อ.อัครพงษ์ หรือ จ่าบอล ตั้งสวดที่วัดมหาวนาราม(มะขามเตี้ย) ต.หัวรอ อ.เมือง จ.พิษณุโลก

ส่วนร่าง น.ส.ชลธิชา หรือ หมอเชอรี่ นำร่างตั้งสวดที่วัดคูหาสวรรค์ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.พิษณุโลก โดยหลังเกิดเหตุ เพื่อนและผู้ที่รู้จักมักคุ้นกับ หมอเชอรี่ โพสต์ไว้อาลัยกับการจากไปของหมอเชอรี่

ทั้งนี้ ในเฟซบุ๊กส่วนตัวของ หมอเชอรี่ พบว่ามักโพสต์ตัดพ้อชีวิต และปัญหาที่กำลังพบเจออาทิ เมื่อ 4 วันก่อน โพสต์ภาพโทรศัพท์มือถือหน้าจอแตก พร้อมแคปชั่นว่า "หากกูตายไป รู้ไว้เลยนะไอ้บอลเป็นคนทำ"  

และได้โพสต์แคปชั่นจอดำข้อความว่า "เคยบอกว่าไหวนะ แต่ตอนนี้ไม่สู้แล้วนะการจากตายน่าจะดีที่สุด" เป็นต้น 
 

ด้านเพื่อนๆของหมอเชอรี่ต่างโพสต์อาลัยเศร้ากันเป็นจำนวนมาก