เปิดคำสาบาน 3 วัด "ลุงพล" ยืนยันความบริสุทธิ์คดีน้องชมพู่

20 ธันวาคม 2566

ศาลจังหวัดมุกดาหาร อ่านคำพิพากษา คดีน้องชมพู่ สั่งจำคุกลุงพล รวม 20 ปี ฐานกระทำโดยประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และพรากเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ไปเสียจากบิดามารดาปราศจากเหตุอันควร ส่วนป้าแต๋น ยกฟ้อง!!

    สืบเนื่องจากกรณี น้องชมพู่ อัปเดตล่าวสุด วันที่ 20 ธันวาคม 2566 ศาลจังหวัดมุกดาหารโดย นัดฟังคำพิพากษาคดี "น้องชมพู่" ภายหลังจากที่ทางศาล เลื่อนนัดฟังคำพิพากษา จากกำหนดการเดิมเมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2566 ออกไปเป็นวันที่ 20 ธันวาคม 2566 เวลา 10.00 น. โดยศาลอ่านคำพิพากษาว่า ลุงพล จำเลยที่ 1 มีความผิดตามประมวลกฎหมายรวม 2 ข้อหา ได้แก่

 

เปิดคำสาบาน 3 วัด \"ลุงพล\" ยืนยันความบริสุทธิ์คดีน้องชมพู่

 

1.ฐานกระทำโดยประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย จำคุก 10 ปี
2.ฐานพรากเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ไปเสียจากบิดามารดาปราศจากเหตุอันควร จำคุก 10 ปี  

 

  ทั้งนี้ ศาลสั่งจำคุกลุงพล รวม 20 ปี ในส่วนของป้าแต๋น ศาลตัดสินยกฟ้อง รวมถึงศาลสั่งให้จำเลยทั้ง 2 คน ต้องชำระค่าสินไหมทดแทน
 

เปิดคำสาบาน 3 วัด \"ลุงพล\" ยืนยันความบริสุทธิ์คดีน้องชมพู่

 

ทางด้าน เพจเฟซบุ๊ก Drama-addict ได้ออกมาสรุปคำตัดสินของศาล โดยระบุว่า 

 

สรุปจาก เอกสารแจกของศาล คดีที่ลุงพลถูกฟ้อง

 

  • ศาลระบุว่า จำเลย ที่ 1 ลุงพล ไม่สามารถยืนยันที่อยู่ตัวเองได้แน่ชัดในเวลาที่น้องชมพู่หายไป ส่วนบุคคลอื่นในที่เกิดเหตุสามารถยืนยันที่อยู่ตัวเองได้หมด

 

  • และคำให้การของลุงพล มีพิรุธหลายอย่าง เช่นอ้างว่า วันที่เกิดเหตุ ไปรับพระที่วัด แต่วันนั้นมือถือของลุงพล อยู่กับป้าแต๋น และทั้งคู่มีมือถือเครื่องเดียว แต่พอไปถึงวัด กลับบอกพระว่าเกือบไม่ได้มารับพระเพราะหลานหาย แต่ลุงพลไม่ควรรู้ข่าวน้องชมพู่หายในเวลานั้น เพราะไม่ได้พกมือถือ และเรื่องน้องชมพู่ก็ยังไม่เป็นข่าว

 

  • และลุงพล ยังไปพยายามพูดคาดคั้นกับพยานปากสำคัญ ให้เปลี่ยนคำให้การ คือเปลี่ยนช่วงเวลาที่พบเห็นลุงพลในคำให้การ จึงเป็นข้อพิรุธว่าหากไม่ได้ทำความผิด จะไปบอกให้พยานเปลี่ยนคำให้การทำไม

 

  • และผลตรวจรถของลุงพล พบเส้นผมหนึ่งเส้น ซึ่งส่งตรวจพบรอยตัด เกิดจากของมีคม ซึ่งองศาของรอยตัดบนเส้นผม ตรงกับอีกสองเส้นที่พบในที่เกิดเหตุ จึงเชื่อว่าถูกตัดด้วยของมีคมชนิดเดียวกัน เชื่อว่าลุงพลเป็นคนตัดผมของน้องชมพู่

 

โดยศาลระบุว่า ไม่น่าเชื่อว่าลุงพลมีเจตนาฆ่าหรือทอดทิ้งน้องชมพู่ แต่อาจเป็นกรณี ลุงพลเห็นน้องชมพู่หมดสติ แล้วไม่ได้ตรวจดูให้ดี นึกว่าน้องตาย เลยเอาน้องไปทิ้งบนเขาภูเหล็กไฟ

เปิดคำสาบาน 3 วัด \"ลุงพล\" ยืนยันความบริสุทธิ์คดีน้องชมพู่

 

ทั้งนี้ย้อนคำสาบานลุงพล จุดธูปสาบานไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของน้องชมพู่ โดยก่อนหน้านี้ลุงพลเคยลั่นคำสาบานไว้ 3 ครั้ง 

 

วันที่ 2 กรกฎาคม 2563 ที่วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร ลุงพลเคยได้สาบานเอาไว้ว่า

"หากข้าพเจ้ากระทำผิดต่อชมพู่จริง ขอให้ทำลายชีวิตข้าพเจ้า และขอให้มีอันเป็นไปโดยเร็ววันด้วยเถิด"

 

ต่อจากนั้น วันที่ 9 กรกฎาคม 2563 วัดถ้ำภูผาแอก ลุงพลได้สาบานไว้ว่า

"ถ้าข้าพเจ้ามีส่วนรู้เห็นในการตายของน้องชมพู่ ขอให้ครอบครัวข้าพเจ้าจงวิบัติ จงฉิบหาย ขอให้ข้าพเจ้าตายโหงไปพร้อมน้องชมพู่ด้วย"

 

และวันที่ 28 กรกฎาคม 2563 วัดถ้ำภูผาแอก ลุงพลได้ลั่นคำสาบานอีกครั้งว่า

"ถ้าข้าพเจ้าไม่ได้มีส่วนรู้เห็นในการตาย ของ ด.ญ.อวรวรรณ วงศ์ศรีชา หรือ น้องชมพู่ ขอให้ครอบครัวข้าพเจ้ามีความสุขความเจริญ" (ในครั้งนี้ลุงพลได้ทำพฤติกรรมแปลกคือปักธูปกลับหัวในกระถางธูป ปฏิเสธดื่มน้ำสาบานที่ลุงชาญเตรียมไว้ให้บอกว่ากลัวโดนคุณไสย พร้อมทั้งหยิบเศษถ่านขึ้นมา แล้วนำเข้าปากเคี้ยว)

 

จากนั้นในวันที่ 1 สิงหาคม 2566 ลุงพลได้เดินทางไปที่วัดศีรษะแรด (วัดหงส์) จ.บุรีรัมย์ ที่ชาวบ้านรู้จักกันดีว่าเป็นวัดที่ศักดิ์สิทธิ์ในด้านคำสาบาน แต่ครั้งนี้ลุงพลกลับไม่ได้เอ่ยคำสาบาน ทำแค่ขอพรเท่านั้น