โป๊ะแตก! เปิดคำให้การ “ลุงพล” มีพิรุธหลายอย่าง ตั้งแต่น้องชมพู่หายตัวไป

20 ธันวาคม 2566

เปิดคำให้การของ “ลุงพล” ที่มีพิรุธหลายอย่าง เคยพูดกับพระว่าหลานหายตัวไป ทั้งที่ตนเองก็ไม่มีโทรศัพท์มือถือ

หลังจากที่ ศาลจังหวัดมุกดาหาร พิพากษาว่า ลุงพล หรือ จำเลยที่ 1 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 291 317 วรรคแรก ฐานกระทำโดยประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย จำคุก 10 ปี และ ฐานพรากเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ไปเสียจากบิดามารดาปราศจากเหตุอันควร จำคุก 10 ปี รวม 2 ข้อหา ศาลสั่งจำคุกลุงพล รวม 20 ปี ส่วนป้าแต๋น ศาลยกฟ้อง แต่ศาลสั่งให้จำเลยทั้ง 2 คน ต้องชำระค่าสินไหมทดแทน
 

(อ่านข่าว เปิดผลตรวจรถลุงพล เจอ1สิ่ง ที่ลุงพลไม่ได้สังเกต สุดท้ายเป็นหลักฐานมัดตัว)

ในเอกสารของศาล ได้ระบุข้อความ คำให้การของลุงพล โดยสรุปว่า คำให้การของลุงพลมีพิรุธหลายอย่าง อย่างเช่นวันที่เกิดเหตุ ลุงพลไปรับพระที่วัด และบอกกับพระว่า เกือบมารับไม่ได้เพราะหลานหายไป  

โป๊ะแตก! เปิดคำให้การ “ลุงพล” มีพิรุธหลายอย่าง ตั้งแต่น้องชมพู่หายตัวไป

แต่ในขณะนั้นลุงพลไม่มีโทรศัพท์มือถือ เพราะโทรศัพท์มือถืออยู่กับป้าแต๋นและทั้งคู่มีแค่เครื่องเดียว ทำให้ลุงพลไม่น่าจะทราบข่าวได้ว่าหลานตนเองหายไป เพราะยังไม่เป็นข่าวในเวลานั้น

“ประการที่สอง จำเลยที่ ๑ (ลุงพล) ให้การเป็นข้อพิรุธหลายอย่าง อาทิ จำเลยที่ ๑ ให้การกับเจ้าพนักงานตำรวจชุดสืบสวนว่า วันเกิดเหตุ จำเลยที่ ๑ มีนัดไปรับพระ ส. ที่วัดถ้ำฎผาแอก ขณะเดินทางไปวัด จำเลยที่ ๒ โทรศัพท์แจ้งจำเลยที่ ๑ ว่า ผู้ตายหายตัวไป แต่ครอบครัวของจำเลยทั้งสองมีโทรศัพท์เคลื่อนที่เพียงเครื่องเดียวอยู่กับจำเลยที่ ๒ (ป้าแต๋น) จึงเป็นไปไม่ได้ที่จำเลยที่ ๒ จะโทรศัพท์แจ้งเรื่องแก่จำเลยที่ ๑ อีกทั้งพระ บ. ซึ่งจำวัดอยู่ที่วัตถ้ำภูผาแอกเช่นกันยืนยันว่า วันดังกล่าว เวลาประมาณ ๑๐.๐๐ นาฬิกา จำเลยที่ ๑ เดินทางไปถึงวัดและพูดกับพระ บ. ว่า หลานหายเกือบไม่ได้ไปส่งพระ ทั้งที่ในขณะนั้น จำเลยที่ ๑ ซึ่งไม่มีโทรศัพท์เคลื่อนที่ติดตัว ต้องยังไม่ทราบเหตุว่า ผู้ตายหายตัวไป”

โป๊ะแตก! เปิดคำให้การ “ลุงพล” มีพิรุธหลายอย่าง ตั้งแต่น้องชมพู่หายตัวไป