สำหรับ "คดีน้องชมพู่" เสียชีวิต ล่าสุดวันที่ เมื่อวันที่ 20 ธ.ค.66 ที่ผ่านมา ศาลจังหวัดมุกดาหาร อ่านคำพิพากษาว่า ลุงพล จำเลยที่ 1 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 291 317 วรรคแรก ฐานกระทำโดยประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย จำคุก 10 ปี และ ฐานพรากเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ไปเสียจากบิดามารดาปราศจากเหตุอันควร จำคุก 10 ปีรวม 2 ข้อหา ศาลสั่งจำคุกลุงพล รวม 20ปี ก่อนต่อมาศาลมุกดาหารให้ประกันตัวลุงพลหลักทรัพย์ 5 แสนบาทส่วนป้าแต๋น ยกฟ้อง แต่ศาลสั่งให้จำเลยทั้ง 2 คน ต้องชำระค่าสินไหมทดแทน ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
โดยทางด้าน สาวิตรี วงศ์ศรีชา แม่น้องชมพู่ ได้เปิดใจกับรายการลุยชนข่าว หลังเจอศพน้องชมพู่หนึ่งวัน พ่อแบมได้เห็นลุงพลก่อกองไฟเผาอะไรบางอย่างอยู่ข้างบ้านนั้น ตัวเองก็คิดว่ามีส่วนเหมือนกัน แต่ตัวเองก็ไม่มีหลักฐานที่จะไปกล่าวหาเขา และการที่ลุงพลร้องไห้ฟูมฟาย
ในตอนที่เจอศพของน้องชมพู่เมื่อตอนค่ำของวันที่ 14 พฤษภาคมนั้น แม่น้องชมพู่ เผยว่า ตัวเองยอมรับเลยเหตุการณ์นั้นก็เป็นพิรุธบางอย่างให้กับครอบครัวตัวสงสัยมาเหมือนกัน ซึ่งตัวเองก็ได้แต่เก็บพิรุธตรงนั้นเก็บไว้ แล้วบอกตำรวจไปว่า ตัวเองสงสัยพฤติกรรมของลุงพลในจุดนี้ ส่วนตำรวจจะสงสัยเหมือนตัวเองหรือเปล่าก็แล้วแต่กระบวนการ
เจ้าตัวมองว่าการร้องไห้ของลุงพลในวันที่เจอศพน้องชมพู่นั้น เขาไม่ได้ร้องไห้จากใจจริง ๆ มันเหมือนการแสดงถ้าคนร้องไห้จริง ๆ น้ำเสียงจะต้องไปพร้อมกับน้ำตาแต่สิ่งที่ตัวเองเห็นเห็นลุงพลร้องไห้นั้น มันเหมือนเป็นการพยายามร้องไห้มากกว่า
ส่วนในเรื่องของเส้นผมน้องชมพู่ที่โดนตัด (กล่าวว่าเส้นผม 1 เส้น ที่ตกอยู่ในรถยนต์จำเลยที่ 1 มีองศาของรอยตัด หน้าตัด และพื้นผิวด้านข้างตรงกันกับเส้นผมผู้ตาย 2 เส้นนั้น) ยอมรับว่าประเด็นเส้นผมถูกตัดนั้น ตัวเองก็พอรู้กับเจ้าหน้าที่มาตั้งแต่ปี 2565 แล้ว
ซึ่งตัวเองคิดว่า การที่จำเลยที่หนึ่งเค้าตัดเส้นผมของน้องชมพู่ไปนั้น เขาน่าจะเอาไปทำไสยศาสตร์เพื่อสะกดวิญญาณ เพราะตัวเองก็เคยคิดเรื่องนี้มาเหมือนกัน ก่อนจะเกิดเหตุเท่าที่ตัวเองสัมผัสกับลุงพล เขาเป็นคนชอบเกี่ยวกับเรื่องลี้ลับหลายอย่าง ส่วนป้าแต๋นพี่สาวของตัวเองก็จะชอบเรื่องลี้ลับ หรือเรื่องการให้โชคลาภการขอหวย
ขอบคุณ ลุยชนข่าว