จากกรณี ศาลจังหวัดมุกดาหาร นัดฟังคำพิพากษาใน คดีน้องชมพู่ และได้พิพากษาว่า “นายไชย์พล วิภา” หรือ “ลุงพล” จำเลยที่ 1 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 291 และ 317 วรรคแรก ฐานกระทำโดยประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย จำคุก 10 ปี ฐานพรากเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ไปเสียจากบิดามารดาปราศจากเหตุอันควร จำคุก 10 ปี รวมจำคุก 20 ปี ส่วน “นางสาวสมพร หลาบโพธิ์” หรือ “ป้าแต๋น” จำเลยที่ 2 ศาลยกฟ้อง
ล่าสุด พระอธิการบุญมา เจ้าอาวาสวัดกกกอก พยานอีกรายในคดีน้องชมพู่ ได้เปิดเผยว่า ยังยืนยันคำเดิมว่า ลุงพลเดินทางมาหาที่วัด และลุงพลได้ทราบข่าวว่าน้องชมพู่หายไปตัว และยืนยันว่าเวลาที่เจอลุงพลยังคงเป็นเวลาเดิม
โดยพระบุญมา บอกอีกว่า ตอนนี้ตัวเองก็ขอให้ดวงวิญญาณน้องชมพู่ไปสู่สุคติ โดยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอาจจะไม่มีใครพาน้องชมพู่ไปบนภูเหล็กไฟก็ได้ เพราะในอีกแง่มุมเขามองว่าน่าจะเป็นเรื่องลี้ลับ เพราะตอนตัวเองเด็ก ๆ ที่ยังเป็นฆราวาสอยู่ ที่หมู่บ้านก็เคยมีเด็กผู้หญิงหายไปบนเขาสามถึงสี่วันแบบนี้มาแล้ว
สุดท้ายก็มาเจอว่าเป็นศพ ทั้งที่ไม่มีใครพาขึ้นไปบนภูเขา โดยพระบุญมาไม่ขอออกความคิดเห็นเรื่องศาลตัดสิน เพราะทุกอย่างเป็นไปตามพยานหลักฐาน และกระบวนการทางกฎหมาย