"พระอธิการบุญมา" พูดถึงวิญญาณน้องชมพู่ มาสื่อจิตให้เห็น

ยังเป็นประเด็นที่หลายคนติดตามกันมาอย่างต่อเนื่องสำหรับ "คดีน้องชมพู่" เด็กหญิงอายุ 3 ปีเศษ ที่หายตัวออกจากบ้าน ก่อนต่อมาพบร่างอยู่บนเขาภูเหล็กไฟ เพียงลำพังโดยไม่มีอาหารและน้ำดื่ม จนถึงแก่ความตาย ระหว่างวันที่ 13-14 พ.ค. 2563 ที่ผ่านมา ต่อมาวันที่ 20 ธ.ค.66  ศาลชั้นต้นตัดสินจำคุกลุงพล 20 ปี ฐานกระทำโดยประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และ ฐานพรากเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ไปเสียจากบิดามารดาปราศจากเหตุอันควร ซึ่งในวันเดียวกันศาลก็ได้ปล่อยตัวลุงพลโดยตั้งวงเงินประกันตัว 5 แสนบาท

เกี่ยวกับประเด็นดังกล่าวล่าสุดทางด้าน พระอธิการบุญมา เจ้าอาวาสวัดกกกอก ซึ่งเป็นพยานอีกรายในคดีนี้ ได้เล่าว่า ในวันที่น้องชมพู่หายไป ตอนที่ลุงพลมาที่วัด ลุงพลได้ทราบข่าวว่าน้องชมพู่หายแล้วจริง ๆ ส่วนเรื่องเวลาที่เจอลุงพล

ตัวเองก็ยืนยันเหมือนเดิมลุงพลได้ช่วยตามหาน้องและมีการถามหาเซียงฆ้อง หรือหมอธรรมกับตัวเอง ซึ่งเซียงฆ้องจะทำหน้าที่ช่วยตามหาคนหาย โดยใช้ความเชื่อเรื่องไสยศาสตร์มาเกี่ยวข้องโดยใช้ฆ้อง (สิ่งของที่ใช้ใส่กบใส่เขียด) เป็นสื่อกลาง ในการเรียกบุคคลที่สูญหายไปเพื่อให้เจอตัวโดยเร็ว

ส่วนเรื่องที่จะพูดเป็นเรื่องลี้ลับเหนือมนุษย์เกี่ยวกับดวงวิญญาณน้องชมพู่ และเกิดมาแล้วหลายครั้ง เริ่มตั้งแต่ช่วงศาลนัดฟังคำพิพากษาครั้งแรก และเกิดขึ้นต่อเนื่อง เคยมีพระภิกษุสงฆ์ที่มาจากที่อื่นแล้วมาธุดงค์ที่นี่ แม้ส่วนตัวจะไม่รู้จักกับน้องชมพู่ก็สามารถสัมผัสได้ถึงดวงวิญญาณของน้องชมพู่ที่อยู่ที่นี่