อีกหนึ่งเรื่องราวที่กำลังเป็นที่ฮือฮาในโลกโซเชียล เมื่อผู้ใช้งานเฟซบุ๊ก Kanya Chumsana ได้โพสต์เตือนภัยลงในกลุ่มเที่ยวยุโรปด้วยตนเอง กับเหตุการณ์การจับโจรบนเครื่องบินขณะบินไปที่ฮ่องกง โดยได้เล่าเหตุการณ์ไว้อย่างละเอียด ดังนี้
“24 ธันวาคม 2566
เตือนภัยโจรขโมยของบนเครื่องบิน ขอแชร์ประสบการณ์ การจับโจรบนเครื่องบินค่ะ
-เราเดินทางจากกรุงเทพไปฮ่องกง เวลาประมาณตีสามของวันที่ 27 พฤศจิกายนที่ผ่านมา
-เรากับเพื่อนขึ้นเครื่องเกือบเป็นคนท้ายๆของลำ เรานั่งในแถว41 เรานั่งริมหน้าต่าง เพื่อนนั่งกลาง และเป็นชายวัยกลางคนนั่งริมทางเดิน
-พอเครื่องออกบินไปได้สักพัก เพื่อนที่นั่งอยู่ตรงกลางเริ่มบอกเราว่าคนข้างๆขยับแบบตลอดเวลาไม่หยุด และเอาตัวเข้ามาใกล้ๆเพื่อนเราจนน่าอึดอัด และเริ่มยกเท้าขึ้นมาสูงมาก พอสัญญาณไฟดับลง เพื่อนเลยเดินไปหาแอร์เพื่อขอย้ายที่นั่ง
-พอเพื่อนเราเดินไปหาแอร์ ผู้ชายวัยกลางคนดูรนๆขึ้นมาทันทีค่ะ ตอนนั้นเรายังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่มันทำให้เราเริ่มสังเกตเขา
-และทันใดนั้นเขาก็เดินมุ่งไปที่หน้าเครื่องเพื่อหาแอร์ ตรงจุดที่เพื่อนเราอยู่ เพื่อขอน้ำ ตอนนั้นเราคิดว่าไม่ปกติแน่ๆ แต่ก็ยังไม่แน่ใจว่าเขาทำอะไร ( เราเลยสังเกตว่าน้ำขวดเก่าเขาก็ยังไม่หมด จะไปทำไม)
-พอเพื่อนเราย้ายไป กลายเป็นโจรกับเรานั่งอยู่สองคน โดยที่ที่นั่งตรงกลางว่าง ( ตอนนี้โจรกับเราจับตาดูกันและกันตลอดเวลา สงครามประสาทสุด )
-เนื่องจากเป็นไฟล์กลางคืน ในเวลาต่อมาไฟถึงดับมืดลงค่ะ จังหวะนั้น โจรหยิบกระเป๋าจากบนเคบิ้นมา วางไว้ที่นั่งว่างๆ ย้ายกระเป๋าไปไว้ที่ขาของเขา และหยิบมันขึ้นมาค้น (มือเขาสั่นมาก ) และสุดท้ายเขาได้หยิบบางอย่างจากกระเป๋าใบนั้นเก็บไว้เอง และเอากระเป๋าวางคืนที่เดิม
-ตอนนั้นเราเองก็ยังไม่แน่ใจว่าคืออะไร เพราะเราขึ้นเครื่องหลังเขา คิดว่าอาจจะหยิบของตัวเองก็ได้ แต่เริ่มคิดว่าเขาอาจจะเป็นโจร ทางเดียวที่เราจะรู้ได้คือ เจ้าของกระเป๋าตัวจริง ต้องหยิบกระเป๋าใบนั้น
-เดชะบุญมากที่ต่อมาอีกประมาณ 20 นาที เจ้าของกระเป๋าตัวจริงนั่งอยู่แถว 42หยิบกระเป๋าเพื่อเอาปากกา ( แต่ก็ยังไม่รู้ตัวว่าของหาย) ตอนนั้นโจรก็ดูรนมากอีกครั้ง
-เราเองที่นั่งอยู่ริมหน้าต่างและโจรก็จับตาดูเราทุกการเคลื่อนไหว พยายามคิดว่าจะทำยังไงเพื่อขอความช่วยเหลือ เราเลยเขียนโน้ตและยื่นให้แอร์ตอนที่แอร์มาเก็บขยะ (ตอนนั้นเราใจเต้นมากมีความกังวลหลายอย่าง ภาษาอังกฤษก็ไม่ได้เป๊ะมาก)
-แอร์ได้รับโน้ต และพยักหน้า จากนั้นไม่นานมีแอร์ผู้ชายเดินมาถามผู้โดยสายแถวที่ 42 ว่ามีอะไรหายมั้ย ตอนนั้นเขาก็ยังไม่รู้ตัวบอกว่าไม่มี ตอนนั้นเราเวนแล้วสุดๆ เพราะเรานั่งอยู่ข้างโจร ( โจรมือสั่นสุดๆ และรนมากตอนนั้น)
และก็โล่งใจที่ผู้เสียหายยังไม่รู้ตัว
-พอเครื่องจะลงจอดจริงๆ ผู้เสียหายรู้ตัวค่ะ! ( กว่าจะรู้ตัวได้) และแอร์บนเครื่องคอยสังเกตุอยู่ ทางสายการบินก็ประสานงานเจ้าหน้าที่ตำรวจทันที
-พอเครื่องลงจอดปุ๊ป เราต่อสัญญาณมือถือ และบอกเพื่อน เพื่อนเลยบอกแอร์และย้ายเราไปนั่งที่ด้านหน้า ระหว่างรอตำรวจมา
-ตอนเครื่องจอดแล้ว เรามองออกไปข้างนอก ด้านนอกประสานงานกันจ้าละหวั่นเลยค่ะ
-ต่อมาอีกราวๆ 15-20 นาที ตำรวจก็มาจับโจรบนเครื่อง
-ตอนโจรออกไปจากเครื่องก็มองแรงเราไป 1 ที
-จากนั้นเราก็ให้ปากคำกับตำรวจที่ภาคพื้น
*สิ่งที่โจรหยิบไปเรามารู้ตอนเจอผู้เสียหายว่าคือเงินค่ะ ช่วงนี้กำลังเข้าสู่ช่วงเทศกาล พี่ๆที่เดินทางช่วงนี้ดูและตัวเองและทรัพย์สินให้ดีนะคะ ของมีค่าพกติดตัวไว้ตลอด โจรมีอยู่ทุกที่ค่ะ
**ขอเพิ่มเติมนิดนึงนะคะ เราเขียนโพสต์นี้มีเจตนาเดียวคือแค่อยากเตือนและหวังว่าจะเป็นประโยชน์ต่อคนที่อ่านจริงๆเรื่องผ่านมาเกือบเดือน ตัดสินใจเพิ่งมาแชร์ เพราะคิดว่าต้องมีคนล้อเลียนเรื่องใช่ภาษาอังกฤษไม่ถูกต้องแน่ๆ ซึ่งก็มีจริงๆ แต่มีพี่ๆคนไทยหลายคนจัดการจนเขาลบเม้นไปแล้ว โดนล้อนิดหน่อยแลกกับให้หลายคนได้ระวังตัวกันมากขึ้น ก็คุ้มค่าอยู่ค่ะ สุดท้ายรู้สึกดีที่ได้ออกมาโพสเตือนทุกคนค่ะ และขอบคุณมากนะคะที่อ่านจนจบแล้วเข้าใจ”
ทันทีที่เรื่องราวถูกเผยแพร่ออกไปก็ได้มีหลายคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นและชื่นชมในการกระทำของเธอมากมาย
ขอบคุณ Kanya Chumsana