ชนวนเหตุที่แท้จริง ร.ต.ท. แค้น ยิงนักธุรกิจดับบนทางด่วน เครียดถูกหลอกใช้

จากเหตุสลดตำรวจยิงนักธุรกิจบนทางด่วน ช่วงกลางดึกที่ผ่านมา โดย ร.ต.ท.ณรงค์วัส รอง สว.(สอบสวน) สน.หัวหมาก ได้กระหน่ำยิง นายกฤษฏิ์ อายุ 30 ปี นักธุรกิจหนุ่มเสียชีวิตบนทางด่วนฉลองรัช กม.10 เหนือถนนประดิษฐ์มนูธรรม กรุงเทพฯ ก่อนชิงเอารถคนผู้เสียชีวิต ซึ่งเป็นรถตู้ฮุนได เอช 1 สีดำ ทะเบียนป้ายแดง ขับหลบหนีไป 

ล่าสุดชุดสืบนครบาลและ สืบ บก.น.4  สืบ สน.วังทองหลาง ได้จับกุมตัว ร.ต.ท.ณรงค์วัส (นัท) อายุ 25 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับข้อหา "ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและ พาอาวุธเข้าไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณ โดยเปิดเผยหรือโดยไม่มีเหตุจำเป็นและเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์ และยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุ ในเมือง หมู่บ้านหรือที่ชุมนุมชน"

ยึดของกลาง อาวุธปืนพกสั้น กึ่งอัติโนมัติ ยี่ห้อ กล็อค 19 สีดำ จำนวน 1 กระบอก พร้อม ซองกระสุน จำนวน 1 อัน, โทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง, บัตรประจำตัวประชาชนของ นายกฤษฎิ์ (ผู้เสียชีวิต) จำนวน 1 ใบ, ชุดที่ใส่ก่อเหตุทั้งเสื้อกางเกงรองเท้า เป็นตัวเดียวกันกับที่สวมใส่ขนาดถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุม

โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำกำลังมาปิดล้อมบริเวณ ห้องพักรายวัน แขวงสีกัน เขตดอนเมือง จ.กรุงเทพฯ จนกระทั่ง ร.ต.ท.ณรงค์วัส ออกมาจากห้องพัก จึงนำตัวซักถามปากคำ ร.ต.ท.ณรงวัส ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหาว่า เป็นผู้ลงมือสังหารผู้ตาย โดยอ้างว่าตน มีปัญหาหนี้สินติดหนี้ในระบบ 2,000,000 บาท จากการกู้ไปลงทุนทำธุรกิจแล้วเจ๊ง จากนั้นก็ได้รู้จักกับผู้ตายแล้วคอยทำงานเป็นคนขับรถให้ผู้ตาย ทำงานมาประมาณ 5 เดือน ระหว่างทำงานบอกว่าจะเคลียร์หนี้ให้ บอกว่าจะดูเรื่องตำแหน่งให้ แต่ยังไม่เห็นว่าจะทำอะไรให้

วันเกิดเหตุ ร.ต.ท.ณรงค์วัส ขับรถให้กับผู้ตาย และมีปากเสียงกันเรื่องที่ว่าถูกหลอกใช้ ตอนก่อเหตุ ผู้ต้องหาได้ใช้อาวุธปืนของตัวเองยิงขา แล้วขู่ก่อนบังคับให้โอนเงินจำนวน 20,000,000 บาท แต่ตกลงกันไม่ได้ มีการยื้อแย่งอาวุธปืนโดยผู้ตายข้ามมา หรือแย่งปืนตำแหน่งผู้ก่อเหตุที่ขับรถอยู่ แล้วเปิดประตูลงไปนอกรถ

จากนั้นผู้ก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงซ้ำอีกถูกบริเวณแขน ยังไม่เสียชีวิต ต่อมาผู้ต้องหาได้ขับรถหนีไป แต่นึกได้ว่าทำโทรศัพท์ของตนเองตกไว้ในที่เกิดเหตุ จึงวนรถกลับมาอีกรอบ และบังคับให้โอนเงินอีกครั้ง เมื่อไม่ยินยอมจึงยิงที่หัวอีก 2 นัด เป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย ผู้ต้องหายอมรับว่าเกิดจากความเครียด และเข้าใจว่าตนถูกหลอกใช้ จึงนำตัวผู้ต้องหาส่ง สน.วังทองหลาง ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป