ตีลุงทำไม "ไรเดอร์หัวร้อน" ขี่จยย. ปาดหน้า ลุงวัย 79 หูไม่ค่อยดี แถมเอาไม้ฟาด

จากรณีเมื่อวันที่ 3 มกราคม 2566 ที่ผ่านมาเพจดังอย่าง "อยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทริน์ part 7" ได้เผยแพร่ภาพเหตุการณ์ ขณะชายวัย 79 ปี หูไม่ค่อยดีปั่นจักรยาน ถูกไรเดอร์ ขับรถจักรยานยนต์ปาดหน้าก่อนใช้ไม้ฟาดที่ศรีษะ จนได้รับบาดเจ็บ แจ้งความเอาเรื่องไม่ยอมขอโทษสักคำ โดยระบุว่า 

ตีลุงทำไม...ลุงแก่หูไม่ค่อยดี..พี่ไรเดอร์ทำไมหัวร้อน...ใครรู้จักสะกิดบอกหน่อย...เจ้าหน้าที่ตำรวจเจ้าของพื้นที่จัดการให้ด้วยค่ะ

เลวมากทำไมทำกับคนแก่ได้ขนาดนี้ 

ถ้าเป็นญาติพี่น้องคุณเองคุณจะรู้สึกยังไง
ลุงแกหูไม่คอยดี แกเลยไม่ได้ยินเสียงรอบข้าง
อาจจะปั่นจักรยานคดไปคดมา เลยไปขวางทางพี่เค้า
นี้ตีด้วยไม้ผุนะ ถ้าไม้แข็งแก่จะเป็นยังไง

ทำไมต้องทำกับคนแก่ขนาดนี้ด้วย
ไรเดอร์...สนามหลวง2 
ผู้จัดการสาขาควรพิจารณานะคะ

เกี่ยวกับประเด็นดังกล่าว ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปสอบถามข้อมูลภายในซอยจุดเกิดเหตุ ซอยทวีวัฒนากาจณา22 แขวงทวีวัฒนา เขตทวีวัฒนา กรุงเทพมหานคร จุดเกิดเหตุเป็นถนนลาดยาง โดยเจ้าของบ้านทีให้ภาพกล้องวงปิดและข้อมูล ทีมผู้สื่อข่าวได้พูดกับ นางจำปี พรมงาม อายุ 72 ปี โดยได้เล่าว่า

ตาบัว ได้มาล่าเหตุการณ์ว่า  เคอรี่ขับรถมาชนแกแล้วต่อยแก แล้วเอาไม้มาฟาดที่หัว ช่วงกกหู จนรถล้มแล้วก็ไปเลย ตนเลยไปเล่าให้หลานฟัง หลานเลยโพสต์คลิปเหตุการณ์ดังกล่าว และตามหาคนก่อเหตุ จนพบว่าคนก่อเหตุขับไรเดอร์ให้กับห้างดัง หน้าวัดศาลาแดง จนเรื่องราวไปถึงผู้จัดการร้าน

 ตาบัวเองนั่นไม่ได้บาดเจ็บอะไรมา แกเป็นคนแข็งแรง แกปวดที่ข้างหูฝั่งที่โดนตี โดยช่วงเช้าวันนี้ ตาบัวก็ได้มาถาม ว่าจะเรียกเงินเท่าไหร่ เพราะต้องไปเจรจาค่าเสียหายที่ สน ในช่วงเช้า ก็เลยบอกให้เรียกไป 5,000 บาท แต่พอไปถึงโรวพัก

คู่กรณีเสนอให้ 2,500 บาท แกก็เลยรับเพียงเท่านั่นและยอมความ ตาบัวเป็นคนพูดง่ายๆเหตุการณ์เลยจบ ชาวบ้านแถวนี้จะรู้กัน แกจะขี่จักรยานแถวนี้ประจำ จนบางที่อาจเกะกะชาวบ้าน แกเองก็มักดื่มเหล้า ไหนหูจะไม่ดี เวลาพูดคุยจะลำบาก ยังดีที่ภาพกล้องวงจรปิด

ก่อนที่ต่อมาผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปพูดคุยกับนายบัว น้อยเสี่ย อายุ 79 ปี ผู้ที่อยู่ในภาพวงจรปิดและถูกทำร้ายโดยไรเดอร์ โดย นายบัว ได้เล่าว่า

ขณะนั้นตนเองได้ปั่นรถจักรยาน ที่ผ่านมาตนเองก็ไม่ได้รู้จักกับคนก่อเหตุ เห็นแต่คนก่อเหตุมาส่งสิ่งของภายในซอยบ่อย เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคนก่อเหตุหาว่าตนขับรถจักรยานไปชนเค้า

ซึ่งในช่วงเกิดเหตุตนขับรถชนจริงตนเองก็ยังไม่ได้ขอโทษอะไรไป คนก่อเหตุก็ขับรถจักรยานยนต์ตามมาทำร้ายร่างกายดังกล่าว หลังจากเกิดเหตุ ในตอนเช้าวันนี้ก็ได้ไปไกล่เกลี่ยกันมาแล้ว เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนเองไม่โกรธ

หลังจากเกิดเหตุตนเองก็ไม่กลัวว่าคนก่อเหตุจะกลับมาทำร้ายอีก เพราะตนเองก็พร้อมสู้ ส่วนหลังจากเกิดเหตุตนเรียกค่าเสียหายไป 5,000 บาท แต่ทางคู่กรณีต่อรองเหลือ 2,500 บาท ส่วนคู่กรณีนั่นไม่ขอโทษสักคำ มีแต่คนอื่นขอโทษแทน ในส่วนอาการบาดเจ็บนั่นก็บาดเจ็บที่ข้างกกหูแต่ก็ไม่มาก