จากกรณีที่ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2566 เวลาประมาณ 18.00 น. ผู้เสียหายได้ใช้โทรศัพท์มือถือเข้าเว็บไซต์เพื่อดูแพลตฟอร์มขายสินค้าออนไลน์ชื่อดังเจ้าหนึ่ง พบประกาศโฆษณาของมิจฉาชีพเชิญชวนให้ร่วมลงทุน จึงเกิดความสนใจและได้กดลิงก์เข้าไปดู พบข้อความชักชวนให้เข้าร่วมทำภารกิจร่วมลงทุน โดยจะได้ส่วนแบ่งผลกำไรเป็นค่าคอมมิชชั่นภายใน 10 นาที จึงหลงเชื่อร่วมลงทุน
โดยมิจฉาชีพใช้วิธีให้ลูกค้ากดสั่งสินค้าลงตะกร้าพร้อมกับให้โอนเงิน จากนั้นให้กดหัวใจให้สินค้าดังกล่าวเพื่อเป็นการเพิ่มยอดรีวิว โดยครั้งแรก ผู้เสียหายได้โอนเงินไปยังบัญชีค้นร้ายจำนวน 300 บาท ต่อมาภายในวันเดียวกัน พบว่าในแพลตฟอร์มปลอมที่มิจฉาชีพสร้างขึ้นมียอดเงินโชว์ผลกำไรพร้อมทุนคืนมา รวมจำนวน 700 บาท จึงเชื่อว่าได้เงินตอบแทนจริง จากนั้นจึงโอนเงินไปยังบัญชีมิจฉาชีพอีกจำนวน 20 ครั้ง รวมเป็นเงินจำนวน 417,566 บาท หลังจากที่ผู้เสียหายได้โอนเงินไปครบตามภารกิจแล้ว ปรากฏว่าไม่สามารถถอนเงินทุนและกำไรออกมาได้จริง จึงเชื่อว่าถูกหลอกลวง จึงได้มาร้องทุกข์ต่อ พนักงานสอบสวน กก.3 บก.สอท.3 เพื่อให้ดำเนินคดีกับมิจฉาชีพดังกล่าว
ต่อมา เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 5 ม.ค.67 ว่าที่ พ.ต.อ.อดิชาต อมรประดิษฐ ผกก.วิเคระห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สอท.3 ได้ส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัดเข้าจับกุม นายศุภฤกษ์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 37 ปี ตามหมายจับของศาลจังหวัดพล ในข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน โดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน และร่วมกันฟอกเงิน” โดยจับกุมผู้ต้องหาได้ที่บริเวณริมถนนหน้าบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 2 ต.เขาพระงาม อ.เมืองลพบุรี จว.ลพบุรี
ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท พล.ต.ต.สถิตย์ พรมอุทัย ผบก.สอท.3 ว่าที่ พ.ต.อ.อดิชาต อมรประดิษฐ ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สอท.3
สั่งการให้ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ท.วีระศักดิ์ แก้วเนียม รอง ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สอท.3, พ.ต.ท.เลอศักดิ์ พิเชษฐไพบูลย์ และ พ.ต.ต.ธวัช ทุเครือ สว.กก.วิเคราะห์ข่าวฯ พร้อมชุดสืบสวนร่วมกันจับกุม