สืบเนื่องมาจากเมื่อวันที่ 15 ม.ค. 66 นายวิญญู แก้วพรม อายุ 42 ปี คนขับรถแท็กซี่สีชมพู หนึ่งในรถที่ถูกรถเก๋งคันสีขาวเร่งเครื่องพุ่งชนแท็กซี่หลายครั้ง บริเวณถนนรัชดาภิเษก เมื่อคืนวันที่ 14 ม.ค. 66 ผ่านมา ได้เดินทางเข้ามาให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน สน.ห้วยขวาง โดยให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า
เมื่อคืนนี้ประมาณ 4 ทุ่มกว่า ๆ ขณะที่ตนกำลังขับรถบนถนนรัชดาภิเษกเลนที่ 3 เลยเอสพลานาดมาเล็กน้อย ปรากฏว่าตนได้ยินเสียงรถเก๋งคันสีขาวขับตามมาข้างหลังด้วยความเร็วสูงและมีการบีบแตร ก่อนจะมาเบียดเฉี่ยวชนกับรถของตนบริเวณฝั่งด้านคนขับ แล้วรถเก๋งก็ขับพุ่งตรงไปยังสามแยกเทียนร่วมมิตร โดยมีแท็กซี่เขียวเหลืองขับไล่ตามมาด้วย
พอมาถึงบริเวณหน้า the Street รัชดา ก็เห็นว่า รถแท็กซี่เขียวเหลืองได้ขับปาดหน้าขวางรถเก๋งคันสีขาว ก่อนจะพุ่งชนกันตามที่ปรากฏในคลิป ซึ่งรถแท็กซี่ของตนที่ขับตามมา ก็ได้แต่จอดห่าง ๆ เพราะกลัวจะถูกลูกหลง เมื่อรถเก๋งสีขาวได้ขับหนีออกไป ตนก็พยายามขับตาม แต่ตอนนั้นก็ไม่สามารถทำความเร็วได้มาก เนื่องจากยังมีรถในปริมาณมาก ก่อนตามกันลงอุโมงค์แยกห้วยขวาง พอขึ้นจากอุโมงค์ก็เห็นว่ารถเก๋งสีขาวคันดังกล่าวหายไปแล้ว
ส่วนตัวอยากเรียกร้องให้คนขับรถเก๋งมารับผิดชอบและถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย ไม่ใช่ขับชนแล้วหนีแบบนี้ เขาน่าจะจอดดูหรือแสดงความรับผิดชอบสักหน่อย ทำตัวเหมือนกับว่าเป็นคนใหญ่คนโต
ในขณะวันเดียวกันนั้น ตำรวจ สน.สุทธิสาร ได้รับแจ้งจากชาวบ้าน ภายในซอยอินทามระ 26 ว่า พบรถยนต์ต้องสงสัยปรากฏ ร่องรอยการถูกชนและมีคราบสีเขียว คล้ายรถแท็กซี่ติดอยู่ จอดอยู่บริเวณท้ายซอย แต่ไม่พบตัวคนขับหรือผู้แสดงตัวเป็นเจ้าของ จึงประสานตำรวจ สน.ห้วยขวาง ให้เข้ามาตรวจสอบ พบว่าเป็นรถยนต์ โตโยต้า คราวน์ สีขาว ซึ่งมีรูปพรรณสัณฐานตรงกับรถเก๋งที่ขับพุ่งชนดะรถแท็กซี่ตามที่ปรากฏในคลิป จึงดำเนินการนำรถยกย้ายรถต้องสงสัยคันดังกล่าว ไปตรวจสอบรายละเอียดที่ สน.ห้วยขวาง ต่อไป
นอกจากนี้ จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ตำรวจ พบว่ารถเก๋งสีขาวคันดังกล่าว มีสติ๊กเกอร์ “สำนักงานอัยการสูงสุด” ติดอยู่หน้ากระจกรถอีกด้วย