กลายเป็นประเด็นที่ถูกจับตาอีกครั้ง กรณีการเสียชีวิตของ น้องโยโกะ พริตตี้เงินล้าน หรือ น.ส.พราวรวี สหัสธัชพงศ์ ซึ่งครอบครัวได้ส่งศพชันสูตรที่คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยผลตรวจพบไซยาไนด์ปริมาณ 1.26 ไมโครกรัมต่อมิลลิลิตร ทำให้ครอบครัวติดใจสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงว่า โยโกะ อาจไม่ได้มาจากการจบชีวิตตัวเอง
เมื่อผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สัมภาษณ์ แม่และเพื่อนน้อง โยโกะ เล่าว่า คุณแม่สงสัยในเรื่องของเวลา ว่ากล้องบันทึกเวลาจริงเฉพาะตอนคนเดินผ่านเท่านั้น โดยข้อความแฟนน้องโยโกะคุยกันมีลักษณะบีบบังคับแม่มองว่ามันเกินกว่าเหตุ
เพื่อนเองมองว่ากดดันกันเกินไป ทุกคนมีเพื่อนมีสังคมก็อยากไปไหนได้ไปกับเพื่อนได้ โดยปกติโยโกะเป็นคนร่าเริง เข้มแข็ง มีอะไรก็จะบอกเพื่อนปรึกษาเพื่อน โดยแม่เองสงสัยเรื่องกล้องในเรื่องเวลาที่หายไปและสงสัยในประเด็นที่แฟนน้องโยโกะไม่มาเปิดห้องเองต้องให้กู๊ดมาเปิด
นอกจากนี้แม่ผู้ตาย ได้ตั้งปมสงสัยและไม่เชื่อว่า ลูกสาวจะทำตนเองได้ ส่วนข้อความโน้ตที่พบในโทรศัพท์มือถือแม้จะเป็นการพูดถึงและตัดพ้อถึงแฟนหนุ่มแต่แม่คิดว่าไม่น่าจะเป็นข้อความที่ลูกสาวเขียนขึ้นมาเองด้วย ตอนนี้ยังไม่ได้ฌาปนกิจศพของลูกสาว จนกว่าปมการตายของลูกสาวจะคลี่คลาย โดยที่ผ่านมาได้ทำการชันสูตรมาแล้ว 2 รอบ
อีกทั้ง ได้มีการเปิดเผยข้อความจากโทรศัพท์ของผู้ตาย เป็นโน้ตข้อความ เขียนถึงบทลงโทษ ซึ่งคาดว่า เป็นข้อตกลงระหว่างผู้ตายและแฟนหนุ่มเช่น ให้เปลี่ยนโทรศัพท์ อีเมล์ ไอคลาวด์ ลบรูป ย้ายไลน์ ไม่ซิงค์ข้อมูลจากเครื่องเก่า ไอจีใหม่ห้ามลงรูปยั่วผู้ชาย รูปขายตัว รูปหากิน ออกไปหาเพื่อนได้ ออกไปช้อปปิ้งได้ ทำหน้าได้ แล้วแต่สำนึกและความเหมาะสม ให้พิจารณาเอง ตัดเงินเดือน 3 แสน เหลือ แสนเดียวเป็นเวลา 3 เดือน เป็นต้น
ในส่วนเรื่องข้อความเงื่อนไขต่างๆ เช่นการให้ลบเฟซบุ๊กไอจี มาทราบตอนน้องเสียชีวิตแล้วยอมรับว่าตกใจ โดยเห็นจากโทรศัพท์ของน้องโยโกะ มองว่าเป็นการกำหนดกฎเกณฑ์เยอะเกินไป
ด้านเพื่อนโยโกะเองมองว่าอาจจะฆ่าตัวตายเองหรือถูกใครมากดดันทำให้เสียชีวิตก็ได้เหมือนกัน โดยปกติโยโกะเป็นคนเข้มแข็งมาก ให้คำปรึกษาเพื่อนเรื่องความรัก ให้กำลังใจเพื่อนเรื่องความรัก ถ้าผลพิสูจน์ออกมาว่าโยโกะฆ่าตัวตายจริงก็อาจจะถูกกดดันจากคนรักก็เป็นได้ โดยเพื่อนเองเคยคุยเล่นกันทำคอนเทนต์กันกับโยโกะเรื่อง ไซยาไนด์หยอกล้อกันเวลา กินอาหารหรือรับของจากคนแปลกหน้าหรือเวลาซื้อน้ำให้กัน