กรณีที่กลายเป็นประเด็นที่หลายฝ่ายจับตา วันนี้ 30 ม.ค.67 ที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กษ.) นายณัฏฐกิตติ์ ของทิพย์ อธิบดีกรมการข้าว แถลงชี้แจงกรณีมีผู้ไม่หวังดีพาดพิงว่า นายหมู ที่ปรึกษา รมว.กษ.เป็นผู้พาภรรยาของอธิบดีกรมการข้าว นำเงินไปมอบให้กับนายศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน เพื่อให้ยุติการร้องเรียนการทุจริตในกรมฯ
โดยทางด้าน นายณัฏฐกิตติ์ กล่าวว่า ประเด็นที่เกิดขึ้นนั้น ตนกับภรรยาได้รวบรวมข้อมูลมานานพอสมควรก่อนไปแจ้งความดำเนินคดี โดยทีมงานที่ปรึกษา รมว.กษ. ไม่มีใครทราบเรื่องนี้ซักคน
เมื่อวันที่ 28 พ.ย. 2566 ด้วยความรำคาญใจ ตนและภรรยา จึงชวนนายหมู ที่ปรึกษา รมว.กษ.ซึ่งเป็นรุ่นพี่ตน จึงไปหานายศรีสุวรรณ ซึ่งเป็นรุ่นน้อง ม.แม่โจ้ ถึงที่บ้าน โดยให้นายหมูไปเป็นพยานไม่ได้ไปจ่ายเงิน และไม่ได้ไปคุยเรื่องเคลียร์เงิน แต่ไปคุยว่าผลการสอบสวนการร้องเรียนโครงการต่างๆ ออกมาแล้วตนไม่ได้ผิดอะไร จึงไปถามว่าจะเรียกร้องอะไร นายศรีสุวรรณก็ไม่ได้ตอบโต้กลับก่อนจะกลับบ้านมา
ต่อมานายศรีสุวรรณ ได้มาแถลงข่าวร้องเรียนเรื่องฝนหลวง และไม่ได้พบกันอีก มีเพียงภรรยาที่ไปพบเท่านั้น ยืนยันว่าการให้เงินนายศรีสุวรรณทุกครั้งนั้นเป็นการล่อซื้อที่ได้หารือกับตำรวจแล้ว
นายณัฏฐกิตติ์ กล่าวอีกว่า ด้วยความคับแค้นเจ็บใจและความที่ตนเป็นคนโกรธง่าย ตนกับภรรยาจึงวางแผนเพื่อไม่ให้ รมว.เกษตรฯ ต้องเดือดร้อน จึงจ้างทนายความมาสู้คดี ถ้าตนผิดก็ต้องถูกสอบสวน ซึ่งผลการสอบสวนก็ชี้ชัดว่าตนไม่ได้ทำผิด
เมื่อนายศรีสุวรรณ ถูกจับ ทีมงานทราบภายหลัง ตนจึงโทรศัพท์ไปแจ้งให้ รมว.เกษตรฯทราบและขอโทษกับเรื่องที่เกิดขึ้น โดยท่านก็ให้ดำเนินการอย่างถูกต้องตามกฎหมายและให้กำลังใจตน
เมื่อถามว่าอดีตนักการเมืองตัวย่อชื่อ ป. สั่งให้เงียบ อธิบดีกรมการข้าวปฏิเสธไม่ทราบ พร้อมบอกว่า ใครจะพูดอะไรตนไม่ทราบ ต้องฟังจากปากตนเท่านั้น หลังเกิดเรื่องมีใครโทรหาตนก็ไม่รับและไม่มีใครโทรหาภรรยาเช่นกัน ยืนยันได้ว่าโครงการต่างๆ ของกรมฯ นั้นตรวจสอบได้ทั้งหมด ทั้งนี้ไม่ทราบว่าทำไมตนถึงตกเป็นเป้า และไม่ทราบว่าเป็นการสกัดทางการเมืองหรือไม่
เมื่อถามว่า ก่อนวันที่ 28 พ.ย. ที่ไปพบนายศรีสุวรรณ นั้น เจ้าตัวติดต่อเข้ามาอย่างไร นายณัฏฐกิตติ์ บอกว่า เจ้าตัวมีเรื่องร้องเรียนเข้ามามากมาย จนตนทนรำคาญไม่ไหว แต่ที่ตนทราบว่ามีการร้องเรียนถึงตนนั้น เหตุเพราะมีจดหมายร้องเรียนเข้ามา แต่จ่าหน้าซองผิด แทนที่จะเป็น รมว.กษ.กลับจ่าหน้าเป็นชื่อตน จึงรู้ที่มาที่ไปของเรื่อง ก่อนไปแจ้งความไว้ที่ สภ.แก้งสนามนาง จ.นครราชสีมา
ด้าน ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ส่วนตัวแล้ว หากวันใดไม่ได้โทรศัพท์คุยกับอธิบดีกันก็คงเหงา เพราะคุยกันทุกวัน แต่ในเรื่องคดีความนั้น ไม่มีการปรึกษาเรื่องการติดต่อล่อซื้อกัน โดยตั้งแต่มีการร้องเรียนตั้งแต่ปีก่อน ปลัดกระทรวงได้สั่งตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อนผลจะออกมาว่าไม่มีความผิด
จึงจะไปเอาผิดไม่ได้ แต่เมื่อเป็นประเด็นสังคม นายกรัฐมนตรีก็สั่งให้ตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงขึ้นมาอีกครั้ง ใครจะร้องเรียนก็ได้ ต้องให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย ตนไม่ทำงานตามกระแสแต่ทำตามหลักการ เพราะที่ผ่านมาก็สั่งย้ายข้าราชการมากมาย ต้องใช้กฎหมายไม่ใช่กฎหมู่
ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ประเด็นนายหมู ไปพบนายศรีสุวรรณด้วยนั้น อธิบดีกรมการข้าวได้ชี้แจงแล้ว แต่เชื่อว่ามีหลายหน่วยงานในสังกัดที่ถูกร้องเรียนเพียงแต่ไม่มีใครเปิดหน้า อย่างตนก็ถูกร้องเรียนเช่นกัน นักร้องเรียนทั้งหลายนั้น ตนก็อยากเชิญไปทานอาหารที่ตากใบด้วยกัน บางเรื่องเป็นเรื่องเก่า ตอนนี้ตนต้องมาปัดกวาดเช็ดบ้านให้สะอาด หากมัวแต่มานั่งซัดคนเก่าไม่ใช่สไตล์ธรรมนัส