วุ่นทั้งอำเภอ "เจนนี่ - กาลลี่" 2 ตัวแม่ นัดตบหลังโรงพัก แถมของหาย ขอ ตร.ช่วยหา

กลายเป็นเหตุวุ่นวายทั้งอำเภอเลยก็ว่าได้ กรณี 2 ตัวแม่เมืองคอน จัดไฟต์หยุดโลก นัดตบหลังโรงพัก มีชาวบ้านแห่มุงดูเต็ม ทำเอาเจ้าหน้าที่ตำรวจเหงื่อตก เพราะต้องบุกชาร์จจับแยกทั้งคู่ออกจากกัน หลังจากที่ทั้งคู่เปิดศึกกันแล้วกลับพบว่า ทรัพย์สินของคนหนึ่งหายไป พร้อมกับสภาพร่างที่ดูไม่จืด ซึ่งเหตุการณ์นี้ ตำรวจแจ้งข้อหาทั้งคู่ และปรับตามกฎหมาย

โดยตามรายงานเผยว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 3 ก.พ.67 เวลาประมาณ 09:48 น. 2 สาวคนดังโซเชียลที่ประกาศนัดตบกัน ที่อำเภอสิชล จ.นครศรีธรรมราช คือ "เจนนี่" หรือ น.ส.ณัฐกฤตตา นักธุรกิจส่วนตัวในอ.สิชล วัย 45 ปี กับ "กาลลี่ สิชล" หรือ น.ส.อาทิตยา อายุ 33 ปี ซึ่งทำธุรกิจออนไลน์ส่วนตัวในพื้นที่เดียวกัน

เบื้องต้นมีรายงานว่า ทั้งคู่มีปัญหาทะเลาะเบาะแว้งกันมาปะทะกันผ่านโพสต์ไปมาอยู่นาน กระทั่งล่าสุดมีการโพสต์นัดตบกันที่ถนนด้านหลังเทศบาลตำบลสิชล หลังโรงพัก สภ.สิชล ในเวลา 10:00 น. ของวันเสาร์ที่ 3 กุมภาพันธ์ 2567 

จนกระทั่งโด่งดังมาในโลกออนไลน์เมืองคอน ซึ่งทาง เฟซบุ๊ก โก้ภัทร หน้าหยก ได้ไลฟ์บรรยากาศสุดวุ่นวาย ทั้งชาวบ้านจำนวนมากนับร้อยคนที่ตามมาดูเหตุการณ์ และกำลังตำรวจนับสิบนาย เตรียมระงับเหตุทะเลาะวิวาท

เรื่องราวนี้เกิดความปั่นป่วนทั้งอำเภอ ตำรวจเตรียมจับกุมหากมีการลงมือก่อเหตุ ซึ่งพบว่า เจนนี่ หรือ น.ส.ณัฐกฤตา ได้ออกมายืนริมถนนพร้อมน้องสาว ประกาศท้าให้ออกมาตบตามนัด มีเงินเดิมพัน 1 หมื่นบาท หากตบกับน้องสาวชนะ
 

อีกทั้งมีการเปิดเผยอีกว่า "เจนนี่" และ น้องสาวกำลังให้สัมภาษณ์นักข่าว กาลลี่ สิชล พุ่งมาจากทางด้านหลังของเจนนี่ ตรงเข้ากระชากผมและตบเจนนี่ที่ไม่ทันระวังตัว จากนั้นเปิดศึกตบกันชุลมุนวุ่นไปหมด ต่อหน้าตำรวจและนักข่าว ด้านตำรวจ รีบเข้าระงับเหตุ และคุมตัวทั้งคู่ แยกกันขึ้นรถยนต์ตำรวจคนละคัน คุมตัวไปยังโรงพัก สภ.สิชล

หลังเหตุการณ์สงบลง พบว่า "เจนนี่" มีบาดแผลถูกข่วนที่บริเวณใบหน้าและขอบตาเลือดไหลอาบเต็มหน้า ส่วน กาลลี่ มีบาดแผลถูกข่วนบริเวณใบหน้าเล้กน้อย ตำรวจได้ดำเนินคดีในข้อหาก่อการทะเลาะวาทและทำร้ายร่างกายทั้งคู่ ปรับตามกฎหมาย

ล่าสุดเรื่องวุ่นดูเหมือนจะไม่จบง่ายๆ เพราะยังมีการโพสต์เดือดกันอีก โดย เจนนี่ ยังได้โพสต์ตามหากระเป๋าตังค์ด้วยว่า "ฝากบอกตำรวจด้วยนะคะ ว่าช่วยเอากระเป๋าตังค์ เนื่องจากดิฉันต้องใช้บัตรประชาชน ขึ้นเครื่องบิน

ฉันต้องไปขึ้นศาลต่อ ที่ กทม. ตอนนี้ ดิฉันไม่มีตังค์ติดตัวสักบาท ผู้กำกับช่วยจัดการให้หนูหน่อยนะคะ ดิฉันทิ้งลูกกับหลานไว้ที่ กทม . ตอนนี้หลานป่วย ต้องรีบไปดูหลาน ดิฉันเป็นห่วงหลาน"