ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา ในช่วงวันที่ 6 - 8 ก.พ. 67 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังอ่อนปกคลุมภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับมีลมฝ่ายตะวันตกในระดับบนพัดปกคลุมภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนยังคงมีอากาศเย็นถึงหนาวในตอนเช้า
ในขณะที่ลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนล่าง และภาคตะวันออก ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ส่วนในช่วงวันที่ 9 - 12 ก.พ. 67 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางระลอกใหม่จากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมด้านตะวันออกของภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และทะเลจีนใต้ ประกอบกับมีลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนล่าง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองกับมีลมกระโชกแรงเกิดขึ้นได้ในระยะแรก หลังจากนั้นอุณหภูมิจะลดลง 2 - 4 องศาเซลเซียสกับมีลมแรงในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ส่วนภาคเหนือ ภาคกลางรวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออก อุณหภูมิจะลดลง 1 - 3 องศาเซลเซียส
สำหรับภาคใต้ในช่วงวันที่ 6 - 9 ก.พ. 67 ลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังอ่อน ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคใต้มีฝนน้อย แต่ยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันมีกำลังอ่อน โดยมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร และบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร
ส่วนในวันที่ 10 - 12 ก.พ. 67 มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้จะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณตอนบนของภาค ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น โดยอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร อ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1 - 2 เมตร และบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ข้อควรระวัง
ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง และเพิ่มความระมัดระวังในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอกไว้ด้วย ตลอดช่วง
ส่วนในช่วงวันที่ 9 - 12 ก.พ. 67 ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบน และภาคใต้ตอนบนระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงที่อาจจะเกิดขึ้น ส่วนชาวเรือบริเวณอ่าวไทยควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย
คาดหมายอากาศรายภาค ระหว่างวันที่ 6 - 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2567
ภาคเหนือ
ในช่วงวันที่ 6 – 9 ก.พ. 67 อากาศเย็นถึงหนาวกับมีหมอกบางในตอนเช้า
อุณหภูมิต่ำสุด 13 – 23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33 – 38 องศาเซลเซียส
บริเวณยอดดอยมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด และมีน้ำค้างแข็งบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 3 - 12 องศาเซลเซียส ลมตะวันตก ความเร็ว 5 – 15 กม./ชม.
ส่วนในวันที่ 10 – 12 ก.พ. 67 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่งในระยะแรก ส่วนมากทางด้านตะวันออกของภาค
อากาศเย็นถึงหนาวกับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิจะลดลง 1 – 2 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิต่ำสุด 12 – 22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31 – 36 องศาเซลเซียส
บริเวณยอดดอยมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 5 - 15 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10 – 20 กม./ชม.
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ในช่วงวันที่ 6 – 8 ก.พ. 67 อากาศเย็นถึงหนาวกับมีหมอกบางในตอนเช้า โดยมีฝนร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนล่างของภาค
อุณหภูมิต่ำสุด 15 – 24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34 – 38 องศาเซลเซียส
บริเวณยอดภูมีอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 10 - 16 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 5 – 15 กม./ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 9 – 12 ก.พ. 67 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 - 20 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่งในระยะแรก
หลังจากนั้นอากาศเย็นถึงหนาวในตอนเช้ากับมีลมแรง อุณหภูมิจะลดลง 2 – 4 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิต่ำสุด 13 – 21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 27 – 34 องศาเซลเซียส
บริเวณยอดภูมีอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 10 - 16 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15 – 35 กม./ชม.
ภาคกลาง
ในช่วงวันที่ 6 – 9 ก.พ. 67 มีหมอกบางในตอนเช้า โดยมีฝนร้อยละ 10 ของพื้นที่ ทางตอนล่างของภาค
อุณหภูมิต่ำสุด 21 – 25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34 – 38 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 5 – 15 กม./ชม.
ส่วนในวันที่ 10 – 12 ก.พ. 67 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 – 30 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่งในระยะแรก
หลังจากนั้นอากาศเย็นในตอนเช้ากับมีลมแรง อุณหภูมิจะลดลง 1 – 3 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิต่ำสุด 20 – 24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31 – 35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10 – 25 กม./ชม.
ภาคตะวันออก
ในช่วงวันที่ 6 – 9 ก.พ. 67 มีหมอกบางในตอนเช้า โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 - 20 ของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 24 – 27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32 – 37 องศาเซลเซียส
ลมใต้ ความเร็ว 10 - 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร
ส่วนในวันที่ 10 – 12 ก.พ. 67 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20 - 40 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่งในระยะแรก
หลังจากนั้นอากาศเย็นในตอนเช้ากับมีลมแรง อุณหภูมิจะลดลง 1 – 3 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิต่ำสุด 21 – 24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31 – 34 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15 – 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร
ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก)
ในช่วงวันที่ 6 – 9 ก.พ. 67 มีเมฆบางส่วน โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 - 20 ของพื้นที่
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10 - 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร
ส่วนในวันที่ 10 - 12 ก.พ. 67 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30 - 40 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณตอนบนของภาค
ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ขึ้นมา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15 - 35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1 - 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราช ลงไป ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20 - 35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
อุณหภูมิต่ำสุด 22 – 27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31 – 36 องศาเซลเซียส
ภาคใต้(ฝั่งตะวันตก)
ในวันที่ 6 – 9 ก.พ. 67 มีเมฆบางส่วน โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 - 20 ของพื้นที่
ลมตะวันออก ความเร็ว 10 - 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร และบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร
ส่วนในวันที่ 10 - 12 ก.พ. 67 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30 – 40 ของพื้นที่
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15 - 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1 – 2 เมตร และบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร
อุณหภูมิต่ำสุด 23 – 27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32 – 37 องศาเซลเซียส
กรุงเทพและปริมณฑล
ในช่วงวันที่ 6 – 9 ก.พ. 67 มีหมอกบางในตอนเช้า และมีเมฆบางส่วน
อุณหภูมิต่ำสุด 24 – 27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33 – 37 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 5 – 15 กม./ชม.
ส่วนในวันที่ 10 – 12 ก.พ. 67 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20 – 30 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่งในระยะแรก
หลังจากนั้นอากาศเย็นในตอนเช้ากับมีลมแรง อุณหภูมิจะลดลง 1 – 2 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิต่ำสุด 22 – 26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31 – 34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10 – 25 กม./ชม.