จากกรณีที่มีรายงานข่าวว่า DSI นำกำลัง บุกโกดังแม่ค้าออนไลน์ชื่อดัง หลังถูกร้อง ซึ่ง นายชยพล สายทวี ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้สนธิกำลังร่วมกับฝ่ายปกครองอำเภอเมืองยะลา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ จ.ยะลา เข้าตรวจค้นโกดังเก็บสินค้าแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.สะเตงนอก อ.เมือง จ.ยะลา
ก่อนต่อมาทราบว่า คือ บริษัท มากี้ช็อป 2017 จำกัด ภายหลังจากที่ได้สืบทราบว่า ได้มีการนำเข้าและจำหน่ายสินค้าที่ไม่ผ่านการรับรองมาตรฐานอุตสาหกรรม และลักลอบจำหน่ายสินค้าหลีกเลี่ยงภาษีอากร โดยเปิดจำหน่ายสินค้าผ่านช่องทางเว็บไซต์และแอพพลิเคชั่น ซื้อ-ขาย สินค้าออนไลน์ ทางเพจ Facebook ชื่อ MakeeShop และ Tiktok ชื่อ Makeeshopofficial
โดยเจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจค้นในบ้าน พบเป็นบ้านหรู มีสระว่ายน้ำ และบางส่วนกำลังต่อเติม มีรถหรูจอดในโรงรถ 4 คัน และเข้าตรวค้นในโกดัง ที่อยู่หลังบ้านดังกล่าว พบสินค้าหลายประเภท อยู่ตามชั้นวางซึ่งสินค้าไม่ผ่านการรับรองมาตรฐานสินค้าอุตสาหกรรม หรือ มอก. ที่ค้นพบอยู่บนชั้นวางด้านหลังโกดัง เช่น เตารีดไอน้ำ หม้อหุงข้าว เตากระทะไฟฟ้า พัดลม พาวเวอร์แบงค์ และ จักรยาน เจ้าหน้าที่จึงตรวจยึดไปตรวจสอบ
ทั้งนี้ นายชยพล เผยว่า พบสินค้าหลายประเภททั้งสินค้าอุปโภค บริโภคเครื่องใช้ไฟฟ้าตลอดจนเครื่องสำอาง ซึ่งในส่วนของสินค้าที่บังคับว่าต้องมี มอก.แต่ไม่มี หรือสินค้าบางประเภทบางชิ้นมี มอก.แต่ต้องไปตรวจดูว่าเป็น มอก.แท้หรือปลอมในส่วนนี้อยู่ในอำนาจหน้าที่ของอุตสาหกรรมจังหวัดที่จะต้องพิจารณาในส่วนของการรับรองมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม
นอกจากนี้ ยังมีสินค้าประเภทเครื่องสำอางที่สาธารณสุขต้องตรวจดูว่าสินค้าดังกล่าวมี อย.หรือไม่ หากระบุเลข อย.ต้องไปตรวจต่อว่าแท้หรือปลอมเนื่องจากว่าการเอาของที่มี อย.เอามาขายต่ำกว่าราคาท้องตลาดมากๆแสดงให้เห็นแล้วว่าอาจจะเป็นสินค้าปลอมก็ได้
ในเบื้องต้นพบสินค้าหลายชนิดไม่มีจำหน่ายในประเทศไทย คาดว่าน่าจะมีการนำเข้ามาจากต่างประเทศ แต่อาจต้องตรวจสอบอีกครั้งว่าผ่านมาจากช่องทางใดบ้าง ในส่วนของความผิดนั้นส่วนที่ 1 เป็นความผิดตามกฎหมายว่าด้วยมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมและส่วนที่ 2 อาจจะเป็นความผิดตามกฎหมายว่าด้วยศุลกากรเกี่ยวกับการนำเข้าสินค้าโดยไม่ผ่านพิธีการศุลกากร
อย่างไรก็ตาม ต้องมีการตรวจสอบกันต่อ ยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย สินค้าไหนถูกต้องตามกฎหมายก็ต้องคืน ไม่ดำเนินคดี ในส่วนการดำเนินการตามกฎหมายว่าด้วยการสอบสวนคดีพิเศษจะดูมูลค่าความเสียหายดูความเสียหายที่เกิดกับประชาชนว่ามีมูลค่าผลกระทบมากน้อยแค่ไหนจะสมควรรับเป็นคดีพิเศษหรือไม่จะต้องมีการพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง ขณะที่ เจ้าของโกดังปฎิเสธที่จะให้ข้อมูลกับสื่อ
สำหรับผลการตรวจค้นเป้าหมายพบพยานหลักฐาน ดังนี้
1.หมายค้นศาลจังหวัดยะลา ที่ 1/2567 ลงวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2567 ค้นสถานที่ บ้านเลขที่ 47/57 หมู่ 7 ตำบลสะเตงนอก อำเภอเมือง จังหวัดยะลา ซึ่งเป็นที่พักอาศัยและโกดังเก็บสินค้า พบสินค้าซึ่งไม่ผ่านการรับรองมาตรฐานอุตสาหกรรม มอก. จำนวน 70 รายการ รวมจำนวน 1,364 ชิ้น
2.หมายค้นศาลจังหวัดยะลา ที่ 2/2567 ลงวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2567 ค้นสถานที่ บ้านเลขที่ 63/1 หมู่ 7 ตำบลสะเตงนอก อำเภอเมือง จังหวัดยะลา ซึ่งมีลักษณะเป็นโกดัง ภายในพบว่ามีเครื่องจักรขนาดใหญ่สำหรับผลิตกล่องบรรจุสินค้าส่งจำหน่ายให้กับลูกค้า และบริเวณด้านข้างโกดังพบรถบรรทุกสินค้าซึ่งมีสินค้าอยู่เต็มคันรถเตรียมนำเข้าใส่โกดัง จำนวน 75 รายการ รวมจำนวน 857 ชิ้น
ของกลางที่ทำการตรวจยึดได้เป็นยอดขายในแต่ละวัน ซึ่งหากเฉลี่ยแล้วในแต่ละเดือนจะมียอดขายประมาณ 30,000 - 40,000 ชิ้นต่อเดือน ประกอบพยานเอกสารการสั่งซื้อและขายที่ตรวจยึดได้ในที่เกิดเหตุซึ่งพบว่าได้ประกอบธุรกิจมาเป็นระยะเวลา 4 ปีกว่า โดยไม่มีอาชีพอื่นใด
พฤติการณ์และการกระทำดังกล่าวจึงเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุสาหกรรมพ.ศ.2566 มาตรา 48 และ มาตรา 48 ทวิ และความผิดตามพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ.2560 มาตรา 242 มาตรา 243 และ มาตรา 244 ซึ่งอาจเข้าข่ายเป็นความผิดทางอาญาตามที่กฎหมายกำหนดไว้ในบัญชีท้ายประกาศ กคพ.(ฉบับที่ 8) พ.ศ. 2565
เรื่อง กำหนดรายละเอียดของลักษณะของการกระทำความผิดที่เป็นคดีพิเศษตามมาตรา 21 วรรคหนึ่ง (1) แห่งพระราชบัญญัติการสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ.2547 ตามบัญชีท้าย ข้อ 8 และข้อ 13ซึ่ง เป็นความผิดมูลฐานตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ซึ่งจะได้เสนออธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษเพื่อพิจารณาสั่งการต่อไป
การดำเนินการดังกล่าวเป็นไปตามข้อสั่งการของพ.ต.ต.ยุทธนา ยุทธนา แพรดำ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ในการมุ่งคุ้มครองความปลอดภัยต่อชีวิต ร่างกาย และสุขภาพอนามัยของประชาชนซึ่งเกิดอันตรายจากการใช้สินค้าที่ไม่ได้มาตรฐาน ซึ่งคณะพนักงานสืบสวนจะดำเนินการบังคับใช้กฎหมายโดยร่วมปฏิบัติงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อบูรณาการร่วมกันอย่างต่อเนื่องต่อไป
ขอบคุณภาพจาก กรมสอบสวนคดีพิเศษ