บุกทลายยกแก๊ง ขบวนการปลอมใบกำกับภาษี เสียหายกว่า 1,000 ล้าน

15 กุมภาพันธ์ 2567

ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) บุกทลายแก๊งปลอมใบกำกับภาษี 5 จุด ย่านนนทบุรี-ปทุมธานี เปิดปฏิบัติการ Anti Tax Crime มูลค่าความเสียหายกว่า 1,000 ล้านบาท

จากกรณีมีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) สนธิกำลังร่วมกับ ปูพรมบุกค้น 5จุดในพื้นที่ปทุมธานี และนนทบุรี หลังจากเจ้าพนักงานสรรพากร เปิดปฏิบัติการ Anti Tax Crime ปราบขบวนการปลอมใบกำกับภาษี สร้างความเสียหายมูลค่ากว่า 1000 ล้านบาท  

บุกทลายยกแก๊ง ขบวนการปลอมใบกำกับภาษี เสียหายกว่า 1,000 ล้าน

โดยร่วมกันตรวจค้น ทั้งสิ้น 5 จุด  ดังนี้ 

  • บ้านพักในพื้นที่ อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี หมายค้นศาลจังหวัดธัญบุรี ที่ ๖๘/๒๕๖๗ ลง ๑๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗ ผู้นำตรวจค้น น.ส.พจนีย์ฯ อายุ ๓๖ ปี .บ้านพักในพื้นที่ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี หมายค้นศาลจังหวัดธัญบุรี ที่ ๖๖/๒๕๖๗ ลง ๑๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗ ผู้นำตรวจค้น น.ส.สายทิพย์ฯ อายุ ๓๖ ปี 

 

  • บ้านพักในพื้นที่ อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี หมายค้นศาลจังหวัดธัญบุรีที่ ๖๕/๒๕๖๗ ลง ๑๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗ ผู้นำตรวจค้น น.ส.สุมาลีฯ อายุ ๕๕ ปี 

 

  • บ้านพักในพื้นที่ อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี หมายค้นศาลจังหวัดธัญบุรี ที่ ๖๗/๒๕๖๗ ลง ๑๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗ ผู้นำตรวจค้น น.ส.จริยาพรฯ อายุ ๔๑ ปี 

 

  •  บ้านพักในพื้นที่ อ.ปากเกร็ด จ. นนทบุรี ตามคำสั่งให้ตรวจค้น ที่ กค ๐๗๐๓/๔ ลง ๑๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗ ผู้นำตรวจค้น นายวีระพงศ์ฯ อายุ ๔๔ ปี  

บุกทลายยกแก๊ง ขบวนการปลอมใบกำกับภาษี เสียหายกว่า 1,000 ล้าน

พฤติการณ์ขบวนการปลอมใบกำกับภาษี  

เนื่องจาก กก.๒ บก.ปอศ. ได้รับคำร้องเรียนจากพลเมืองดี ว่ามีบุคคลหรือนิติบุคคลกระทำความผิดเกี่ยวกับการออกใบกำกับภาษีโดยไม่มีสิทธิออก ซึ่งมีการลักลอบออกใบกำกับภาษีโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายให้กับผู้ประกอบการทั่วประเทศเป็นจำนวนมาก คิดเป็นความเสียหายต่อรัฐหลายร้อยล้านบาท โดยไม่มีการซื้อขายสินค้าหรือให้บริการเกิดขึ้นจริง เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ กก.๒ บก.ปอศ. จึงได้ทำการสืบสวน โดยให้สายลับเจรจาล่อซื้อใบกำกับภาษี จากกลุ่มบุคคลดังกล่าว จำนวน 5 ครั้ง และมีการออกใบกำกับภาษี โดยไม่มีสิทธิที่จะออก จำนวน 30 ใบ ต่อมาได้ไปตรวจสอบสถานประกอบการ ซึ่งจดทะเบียนเป็นสำนักงานนิติบุคคล พบว่า ไม่มีลักษณะเป็นสถานประกอบการแต่อย่างใด แต่กลับมีการลักลอบเปิดกิจการเพื่อขายใบกำกับภาษีที่ออกโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายอันมีลักษณะเป็นการทำลายระบบภาษีมูลค่าเพิ่ม ซึ่งมีผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศและประชาชนออกใบกำกับภาษีโดยไม่มีการซื้อขายกันจริง ในส่วนของผู้ออกต้องรับผิดทางแพ่งแล้ว

บุกทลายยกแก๊ง ขบวนการปลอมใบกำกับภาษี เสียหายกว่า 1,000 ล้าน

ยังมีโทษทางความผิดใช้ใบกำกับอาญาด้วยในฐานความผิด โดยเจตนาหลีกเลี่ยงหรือพยายามหลีกเลี่ยงภาษีมูลค่าเพิ่ม ออกใบกำกับภาษีไม่มีสิทธิที่จะออก ส่วนผู้ที่นำใบกำกับภาษีไปใช้ ถือเป็นภาษีซื้อต้องห้ามไม่มีสิทธินำมาใช้เป็นเครดิตต้องรับผิดทางแพ่ง และมีโทษทางอาญาในฐานภาษีปลอมโดยเจตนานำใบกำกับภาษีปลอมหรือใบกำกับภาษีที่ออกโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายไปใช้ในการเครดิตภาษี มีโทษต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สามเดือนถึงเจ็ดปี และปรับตั้งแต่สองพันบาทถึงสองแสนบาท 

บุกทลายยกแก๊ง ขบวนการปลอมใบกำกับภาษี เสียหายกว่า 1,000 ล้าน
  
เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.๒ บก.ปอศ. จึงได้ยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อขอหมายค้น และเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา ๐๙.๐๐ น. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการ กก.๒ บก.ปอศ. และเจ้าพนักงานสรรพากร ได้ร่วมกันเข้าตรวจค้น ทั้ง 5 จุด พบผู้ต้องหาและตรวจยึดเอกสารที่เกี่ยวข้องในการกระทำความผิด จากนั้นได้นำส่ง พนักงานสอบสวน กก.๒ บก.ปอศ. เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ซึ่งหลังจากนี้จะได้ดำเนินการแจ้งข้อกล่าวหากับผู้ที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินคดีต่อไป 


ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ ได้เล็งเห็นความสำคัญของการจัดเก็บภาษีประเภทต่างๆ อย่างถูกต้อง เพื่อให้รัฐสามารถนำภาษีไปใช้ในการบริหารและพัฒนาสวัสดิการของประเทศได้อย่างเพียงพอและมีประสิทธิภาพ

บุกทลายยกแก๊ง ขบวนการปลอมใบกำกับภาษี เสียหายกว่า 1,000 ล้าน

จึงได้มีการดำเนินการตามมาตรการเชิงรุก เพื่อป้องกันปราบปรามและจับกุมผู้กระทำความผิดทุกรูปแบอย่างเด็ดขาด เช่น ผู้ประกอบการธุรกิจที่นำใบกำกับภาษีปลอมมาใช้ และผู้ประกอบการที่ขายใบกำกับภาษีที่ออกโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งทำให้รัฐเกิดความเสียหายและเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาสวัสดิการและคุณภาพชีวิตของประชาชนชาวไทย