คืบหน้าคดี "บ้านปรปักษ์" หรือ "การครอบครองปรปักษ์" ล่าสุดผู้สื่อข่าวไทยนิวส์รายงานว่า นายภคิน ทิมกุล หรือ ซัน หลานอากู๋เหมทัศน์ พร้อม นายสุนทร โกตน ทีมทนายเดชา ผู้รับมอบอำนาจเดินทางมาที่อัยการจังหวัดนนทบุรีเพื่อยื่นหนังสือ ขอคัดค้านการปล่อยตัวชั่วคราวผู้ต้องหา
เนื่องจากผู้ต้องหาทั้ง 5 มี พฤติกรรมกระทำความผิดซ้ำซาก กล่าวคือ บุกรุกเข้ามาในบ้านหลังดังกล่าวหลายครั้งหลายหน เบื้องต้นได้แจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีกับบุคคลทั้ง 5 แล้ว และกลุ่มบุคคลดังกล่าวก็ได้ยอมออกจากบ้านแล้ว
ต่อมากลุ่มบุคคลดังกล่าวก็ยัง เหิมเกริมไม่เกรงกลัวต่อกฎหมายบ้านเมืองยังบุกรุกเข้ามาในบ้านอีกครั้ง โดยการตัดกุญแจและบุกรุกเข้าไปนำทรัพย์สินสวนตัวเข้าไปไว้ในบ้านและยังเปลี่ยนกุญแจ โดยเอากุญแจของตนเองมาติดตั้งแทนเพื่อขัดขวางไม่ให้เจ้าของบ้านเข้าไปในบ้านได้อีกครั้ง
หลังจากที่ไปตัดกุญแจบ้านยังไม่ได้รับการติดต่อมา ยืนยันจะไม่ไกล่เกลี่ย ถ้าเขาไม่ออกมาฟ้องปรปักษ์ก็สามารถไกล่เกลี่ยได้แต่ตอนนี้ไม่ได้แล้ว อีกทั้งยังนำป้ายมาติดว่าตนเอกใต้กรรมสิทธิ์โดยการครอบครองปรปักษ์แล้ว ทั้งที่ศาลยังมิได้มีคำ พิพากษาแต่อย่างใด
รวมทั้งได้นำป้ายไวนิลมาติดที่หน้าบ้าน อ้างว่าเป็นการประกอบการค้าโดยนำเบอร์ โทรของบุคคลอื่นมาแสดงในบ้าน อันเป็นการกระทำที่เห็นแก่ตัวและมีได้เกรงกลัวต่อกฎหมายบ้านเมือง
อีกทั้งทนายความของกลุ่มบุคคลดังกล่าวก็ยังท้าทายว่าคดีนี้ตนเองมีสิทธิ์ที่จะชนะคดีได้อย่าง แน่นอน เพราะได้ครอบครองมาแล้วเกินกว่า 10 ปี ทั้งๆ ที่พยานหลักฐานอยู่มาเพียง 6 ปีเท่านั้น พฤติกรรมของ กลุ่มผู้ต้องหาและทนายความเป็นเรื่องที่ไม่เกรงกลัวต่อกฎหมายและคดีนี้เป็นเรื่องที่อยู่ในความสนใจขอประชาชน
เบื้องต้นยังไม่สืบพยานเพราะเพิ่งยื่นแย้งไปเมื่อเดือนมกราคม 2567 ที่ผ่านมา ส่วนการเจรจาค่าเสียหายจะไม่มีการไกล่เกลี่ยขอไปให้การในชั้นศาล ส่วนความคาดหวังในการยื่นคำร้องในวันนี้ (16 ก.พ.67)
ด้านนายภาคินเผยว่า ตนรู้สึกว่าเขาไม่เกรงกลัวกฎหมาย และเขาบุกรุกมาอีกรอบและคืนบ้านแต่กลับมาใหม่แสดงให้เห็นว่าไม่มีความเกรงกลัวกฎหมายและตนเองก็กลัวเรื่องความปลอดภัยด้วย
เบื้องต้นบ้านหลังดังกล่าวมีคนมาติดต่อขอเช่าแล้ว หากคดีสิ้นสุดอาจจะมีการปล่อยเช่าหรือปล่อยขาย ยืนยันจะไม่ขายให้คู่กรณีอย่างแน่นอน มั่นใจว่าศาลเมตตาเพราะเป็นบ้านของเราและเราไม่ได้ไปยุ่งอะไรกับเขาและมั่นใจในพยานหลักฐานที่มี