"หนุ่มโปรแกรมเมอร์" ตรอมใจ ลาโลกตามภรรยา หลังจากไปกะทันหันครบ 1 ปี

 วันที่ 18 ก.พ. 2567 ที่ผ่านมา เกิดเหตุสลด"หนุ่มโปรแกรมเมอร์" ตรอมใจ ตัดสินใจคิดสิ้น หลังภรรยาเสียชีวิตกะทันหัน จากไปครบ 1 ปี  โดยทางด้าน ร.ต.อ.เฉลียว วอกลาง รอง สว.(สอบสวน) สน.บางบอน รับแจ้งเหตุมีคนรมควันตนเองเสียชีวิต ภายในบ้านหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ถนนบางบอน 4 แขวงบางบอนเหนือ เขตบางบอน กรุงเทพฯ จึงไปตรวจสอบพร้อมแพทย์นิติเวช รพ.ศิริราช และอาสามูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง

ในที่เกิดเหตุลักษณะเป็นบ้านเดี่ยวปลูกในรั้วรอบขอบชิด สูง 2 ชั้น ตรวจสอบโรงจอดรถข้างบ้านเป็นอาคารชั้นเดียว พบรถยนต์เก๋ง สีบรอนซ์ ประตูล็อคทั้ง 4 บาน จอดสตาร์ตเครื่องอยู่ ภายในรถฝั่งคนขับพบศพชายอายุ 45 ปี อาชีพโปรแกรมเมอร์ สภาพนั่งฟุบคาพวงมาลัยรถ สวมเสื้อยืดคอกลมสีดำ นุ่งกางเกงขาสั้นสีส้ม จึงนำร่างลงมาข้างรถเพื่อทำการปั๊มหัวใจ แต่ไม่เป็นผล 

นอกจากนี้บริเวณเบาะด้านหลังฝั่งซ้ายพบเตาปิ้งย่างบาร์บีคิว สีดำ สภาพใหม่ ยังมีถ่านที่ยังติดไฟอยู่บางส่วน ที่ด้านเบาะหลังด้านขวา พบถ่านที่ใช้ก่อไฟ 1 กล่อง และกล่องที่ใส่เตาบาร์บีคิว เจ้าหน้าที่จึงรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน

จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ผู้เสียชีวิตอาศัยอยู่เพียงลำพัง ได้มาซื้อบ้านหลังดังกล่าวไว้กับภรรยาที่เสียชีวิตไปแล้ว ซึ่งวันนี้ตรงกับวันที่ภรรยาเสียชีวิตเมื่อปีที่แล้ว 18 ก.พ. 2566 โดยเหตุการณ์ครั้งนั้นขณะที่ผู้เสียชีวิตและภรรยา ได้ตามช่างเพื่อมาซ่อมแซมบ้านหลังที่เกิดเหตุ แต่จู่ๆภรรยาเกิดเป็นลมและเสียชีวิตกะทันหัน

ขณะเดียวกันก่อนหน้านี้ ผู้เสียชีวิตได้ส่งข้อความผ่านแอปพลิเคชันไลน์บอกกับญาติๆ ทำนองสั่งเสียเป็นลางร้าย ทำให้ญาติๆเกิดความสงสัย จึงประสานพนักงานรักษาความปลอดภัยของหมู่บ้าน อีก 2 คน เข้าไปตรวจสอบ เมื่อไปถึงพบว่ารถยนต์ผู้ตายจอดติดเครื่องไว้ และนอนหมดสติอยู่ในรถ จึงอุ้มร่างมาไว้ข้างบ้าน ก่อนแจ้งเจ้าหน้าที่มาทำการตรวจสอบ และพบว่าเสียชีวิต ส่วนสาเหตุคาดว่าผู้ตายตรอมใจที่ภรรยาเสียชีวิตไปอย่างกะทันหัน 

 สอบถามหญิงอายุ 51 ปี ซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องของผู้เสียชีวิต บอกว่าปกติผู้เสียชีวิตจะส่งไลน์มาสวัสดีตอนเช้าทุกวัน แต่จู่ๆวันนี้เกิดเงียบไป รวมถึงเมื่อเช้าวันนี้ เวลา 09.00 น. ญาติอีกคนที่ผู้เสียชีวิตส่งไลน์สั่งเสียว่า ฝากบ้านด้วย พร้อมกับถ่ายรูปบ้านส่งไปให้ญาติๆดู จึงตัดสินใจรีบมาดูที่บ้าน เนื่องจากโทรหาผู้เสียชีวิต แต่ไม่มีการรับสาย 

เมื่อมาถึงป้อมยามหน้าหมู่บ้านตนจึงแจ้งกับ รปภ.เลยว่าให้โทรเรียก 191 มาเลย และนำตนไปที่บ้านผู้เสียชีวิตด้วย เมื่อมาถึงทาง รปภ.และญาติพยายามตะโกนเรียกผู้เสียชีวิต รวมถึงโทรศัพท์ไปหาหลายสาย แต่ไม่มีการตอบรับ และประตูบ้านเกิดล็อคทั้งหมด ตนจึงปีนข้ามประตูรั้วเข้าไปดู เมื่อเข้าไปก็วิ่งดูรอบบ้านแต่ไม่พบ ตนจึงพยายามเคาะกระจก เนื่องจากเปิดบ้านไม่ได้ 

จากนั้นเห็นว่ามีรถยนต์ผู้เสียชีวิตจอดอยู่ จึงรีบไปดูก็พบร่างอยู่ในรถ และมีเตาจุดไฟมีความร้อนอยู่ แต่ประตูไม่ล็อค มีกุญแจเสียบคาอยู่ สังเกตุเห็นตัวผู้เสียชีวิตมีรอยจ้ำ แดงๆทั่วตัว รวมถึงข้างบ้านก็พยายามจะช่วยเอายามาให้ผู้เสียชีวิต แต่ผู้เสียชีวิตไม่มีลมหายใจแล้ว ก่อนจะช่วยกันหามร่างผู้ตายลงจากรถ 

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จึงนำร่างผู้ตายส่งให้แพทย์นิติเวชโรงพยาบาลศิริราชชันสูตรหาสาเหตุอย่างละเอียดเพิ่มเติม ก่อนประสานให้ญาติมารับกลับไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป