เผยข้อความสุดท้าย "ผู้เสียชีวิต" ส่งหา "ซัน หลานชายอากู๋" ก่อนตัดสินใจลาโลก

26 กุมภาพันธ์ 2567

ทนายเดชา ยืนยันไม่ได้ใช้สื่อกดดัน ด้าน "ซัน หลานอากู๋" เสียใจ เปิดข้อความสุดท้าย คู่กรณีคดีบุกรุกบ้าน ส่งข้อความหาก่อนตัดสินใจจบชีวิต

จากเหตุสลด น.ส.ภานุมาศ 1 ใน 5 ผู้ต้องหาคดีบุกรุก จากคดีดังครอบครองปรปักษ์ บ้านอากู๋ ย่านรามอินทรา 58 ได้ตัดสินใจจบชีวิตตัวเอง ในบ้านพัก โดยทนายความของฝั่งผู้ต้องหาได้ออกมาเปิดเผยว่า ผู้ตายเกิดความเครียดที่ถูกสื่อกดดันหลังโดนดำเนินคดี ตามที่มีการนำเสนอข่าวไปแล้วนั้น 

เผยแชทสุดท้าย ผู้เสียชีวิต ส่งหา ซัน หลานชายอากู๋ ก่อนตัดสินใจลาโลก

 

ล่าสุดเมื่อเวลา 14.40 น. วันที่ 26 ก.พ. 2567 ที่สำนักงานทนายคลายทุกข์ ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายความของอากู๋ และทนายกุ้ง และ ซัน หลานอากู๋ ได้มีการแถลงข่าวถึงเรื่องดังกล่าว ยืนยันไม่ได้ใช้สื่อกดดัน

 

โดย ทนายเดชา ได้เปิดเผยว่า ขอแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งอากู๋เองก็รู้สึกเสียใจเช่นกัน จึงขออโหสิกรรมให้


แต่ที่คาใจคือการที่ทนายความของคู่กรณีให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า มีการใช้สื่อมวลชนเป็นเครื่องมือกดดันจนเป็นเหตุให้ผู้เสียชีวิตตัดสินใจฆ่าตัวตายนั้นคงไม่ใช่สาเหตุหลัก เพราะการไปร้องเรียนสื่อมวลชนเพื่อเป็นปากเป็นเสียงให้ช่วยเหลือนั้นเป็นเรื่องปกติ เป็นการนำเสนอข่าวเพื่อช่วยเหลือผู้ได้รับความเดือดร้อน ให้ได้รับความเป็นธรรม ตนเองเห็นว่าทนายคู่กรณีไม่มีความรับผิดชอบ ไปแนะนำให้ลูกความไปบุกรุกครั้งที่ 2 หรือไม่

  เผยแชทสุดท้าย ผู้เสียชีวิต ส่งหา ซัน หลานชายอากู๋ ก่อนตัดสินใจลาโลก

เป็นทนายความต้องมีจรรยาบรรณต่อวิชาชีพ คุณธรรมต้องนำกฎหมาย โดยผู้ถูกกล่าวหามีความเชื่อมั่นในตัวทนายความคนล่าสุดมาก ว่าจะสามารถนำบ้านมาเป็นของตัวเองได้ ส่วนจะเป็นการหลอกเอาเงินลูกความหรือไม่นั่น ตนเองไม่อยากวิพากษ์วิจารณ์ แต่อยากให้ประชาชนไปคิดเอาเอง

 
สำหรับความคืบหน้าคดีแรก ที่ผู้เสียหายได้แจ้งความข้อหาบุกรุกกับผู้ถูกกล่าวหา 5 คนนั้น พนักงานอัยการนัดฟังคำสั่งฟ้องวันที่ 6 มีนาคมนี้ เวลา 09.00 น. เมื่อผู้ต้องหาเสียชีวิตไป 1 คน ก็ต้องจำหน่ายออกจากคดี ซึ่งแนวทางที่อัยการจะสั่งคดี มีทั้งหมด 3 แนวทาง คือ สั่งฟ้องทั้งหมด, สั่งสอบเพิ่มเติม และสั่งไม่ฟ้อง

เผยแชทสุดท้าย ผู้เสียชีวิต ส่งหา ซัน หลานชายอากู๋ ก่อนตัดสินใจลาโลก

 โดยก่อนหน้านี้ สามีของผู้ตายพร้อมกับสามีของผู้ถูกกล่าวหาอีกคน ได้มาพบกับตนเองและโทรศัพท์มาพูดคุยกับทนายเดชาว่า ภรรยาได้สำนึกผิดในการบุกรุกเข้าไปในบ้านของอากู๋ ซึ่งยินดีแสดงความรับผิดชอบ ด้วยการชดใช้ค่าเสียหายทั้งหมด และติดต่อไปยังอากู๋ ต้องการที่จะเข้ากราบอากู๋ ก่อนที่จะเสียชีวิต มีความพยายามหลายครั้ง ซึ่งตนเองพยายามที่จะเป็นคนกลาง ช่วยคุยกับอากู๋ทั้งค่าเสียหาย และเรื่องคดีต่างๆ แต่อาจเป็นเพราะยังเจรจายังไม่ไปถึงไหน จึงอาจทำให้เกิดความเครียดตัดสินใจก่อเหตุดังกล่าวขึ้น

สิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นผู้เสียชีวิตก็เสียใจ พยายามที่จะมาเยียวยาค่าเสียหาย ซึ่งคนที่ร้องศาลให้มีคำสั่งครอบครองปรปักษ์ ไม่ใช่ผู้เสียชีวิต แต่เป็นพี่สาวของผู้เสียชีวิต ซึ่งผู้เสียชีวิตก็รู้สึกสำนึกในการกระทำและพร้อมเยียวยาค่าเสียหายทั้งหมด โดยผู้ตายได้ส่งข้อความผ่านแอปพลิเคชันไลน์ให้ทนายความและแฟนของนายซัน เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา มีข้อความระบุว่า "ยังไงก็คิดซะว่าทำบุญให้คนป่วยแบบพี่ด้วยนะคะ"

 

เผยแชทสุดท้าย ผู้เสียชีวิต ส่งหา ซัน หลานชายอากู๋ ก่อนตัดสินใจลาโลก


โดยส่วนตัวก็เพิ่งเคยเห็นคดีแรกที่ทนายความทำคดีแล้วลูกความเครียดจนเสียชีวิต ซึ่งยังไม่คิดถึงเรื่องการยื่นให้สภาทนายความตรวจสอบจริยธรรมของทนายตวามคู่กรณี ขึ้นอยู่กับนายซันว่าจะดำเนินการร้องเรียนไปหรือไม่ แต่ตอนนี้อากู๋บอกแค่ว่าอยากให้มีการไกล่เกลี่ย ซึ่งอากู๋เองทั้งเสียใจและช็อคการไกล่เกลี่ยโดยใช้กระบวนการทางกฎหมาย


ด้าน นายซัน หลานชายของอากู๋ ก็ได้ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิต เรื่องแบบนี้ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น ซึ่งฝ่ายตนเองก็พร้อมที่จะเจรจาไกล่เกลียที่ชั้นศาล ทางตนเองไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแบบนี้ ส่วนกรณีที่ทางทนายความคู่กรณีกล่าวโทษว่าฝ่ายตนเองพยายามใช้สื่อกดดันนั้น ฟังแล้วทำให้รู้สึกไม่ดีเลย

 

ขณะนี้ กำลังปรึกษากันว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อดี ซึ่งตนเองทราบมาว่าผู้ถูกกล่าวหา เตรียมยื่นเรื่องขอเจรจาและจะถอนฟ้องคดีปรปักษ์ แต่มีการตรวจสอบแล้วพบว่ายังไม่ได้ถอน ซึ่งผู้ต้องหาพยายามที่จะติดต่อมาพูดตรงตรงว่า ก่อนหน้านั้นก็ยังโกรธอยู่เพราะบุกรุกมาซ้ำซ้อน แต่ตอนนี้ผ่านจุดนั้นมาแล้วเรื่องนี้จะขอว่ากันอีกที

เผยแชทสุดท้าย ผู้เสียชีวิต ส่งหา ซัน หลานชายอากู๋ ก่อนตัดสินใจลาโลก


อย่างไรก็ตาม ส่วนการจะขายบ้านหลังนี้ให้กับคู่กรณีหรือไม่ ดำเนินการกับคู่กรณีที่เหลืออย่างไร ต้องขอสอบถามพูดคุยกับอากู๋ก่อน เพราะตอนนี้ยังคงเสียใจช็อคกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น