จากรณีที่ตำรวจสอบสวนกลาง จับกุม น.ส.ธมลวรรณ และนายภูชิตธิกร ที่หมู่ 7 ต.ท้อแท้ อ.วัดโบสถ์ จ.พิษณุโลก หลังพบเส้นทางเงินถึง 80 ล้านบาท ในความผิดฐาน “ร่วมกันฟอกเงิน และสมคบโดยตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน และได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่มีการสมคบกัน”
สืบเนื่องจาก เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เปิดปฏิบัติการทลายเครือข่าย “ศิลปินดังแอบอ้างโครงการเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ ลวงเหยื่อสูญเงินกว่า 2,000 ล้าน” โดยได้นำกำลัง เข้าตรวจค้น จำนวน 19 จุด ในพื้นที่ 7 จังหวัด จนสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ จำนวน 10 คน พร้อมตรวจยึดทรัพย์สิน จำนวนกว่า 280 ล้านบาท
กรณีดังกล่าวได้มีกลุ่มผู้เสียหายเข้าร้องทุกข์ดำเนินคดีกับ น.ส.รัชญาฯ ซึ่งอ้างว่ารู้จักกับสถาบันการเงิน สามารถเข้าถึงโครงการเงินกู้วงเงินสูง อัตราดอกเบี้ยต่ำ โดยแอบอ้างหน่วยงานราชการต่างๆ เพื่อให้เกิดความน่าเชื่อถือและชักชวนกลุ่มผู้เสียหายเข้าร่วมลงทุนจนทำให้สูญเงินกว่า 2,000 ล้านบาท
แม้ต่อมา น.ส.รัชญา ได้เสียชีวิตลง แต่การสืบสวนยังคงเป็นไปอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสืบสวนขยายผลจนทราบว่า หลังจากที่กลุ่มผู้ต้องหาได้รับเงินที่ได้มาจากการหลอกลวงผู้เสียหายที่โอนเงินเข้าบัญชีธนาคารของกลุ่มผู้ต้องหาทั้ง 7 บัญชีแล้ว ได้มีการโอนถ่ายเงินดังกล่าวไปยังกลุ่มเครือญาติและบุคคลอื่นที่ไม่ใช่เครือญาติ
โดยพบว่ามี น.ส.ธมลวรรณฯ และนายภูชิตธิกรฯ ได้รับโอนเงินมาจาก น.ส.รัชญา รวมจำนวนสูงถึง 86,000,000 บาท และมีพฤติการณ์ยักย้ายถ่ายเท ก่อนโอนให้กับบุคคลอื่น รวมถึงนำมาแปรสภาพเป็นทรัพย์สิน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขอหมายจับต่อศาล
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้ทำการสืบสวนจนทราบว่า น.ส.ธมลวรรณฯ และนายภูชิตธิกรฯ ได้หลบหนีมาอาศัยอยู่ที่บริเวณบ้านพักในพื้นที่ จ.พิษณุโลก เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำกำลังลงพื้นที่ดังกล่าว จนสามารถจับกุมตัว น.ส.ธมลวรรณฯ และนายภูชิตธิกรฯ ได้ที่บริเวณบ้านหลังดังกล่าว จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้นำตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 นำส่งพนักงานสอบสวน กก.3 บก.ป. เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
เบื้องต้น กลุ่มผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยปฏิเสธว่า
ไม่รู้จักกับ น.ส.รัชญา