จากกรณีพบร่าง นางภัทร อายุ 63 ปี เศรษฐีนีเจ้าของโรงหล่อพระ ย่านหัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ถูกยิงเสียชีวิตในบ้าน ที่ร่างนั้นมีผ้าคลุมอยู่ ใกล้กันพบร่าง นางสุ เลขา อายุ 46 ปี ถูกยิงเสียชีวิต สภาพสวมแต่ชุดชั้นใน โดยจากการตรวจสอบร่างผู้เสียชีวิตพบว่า นางภัทร เสียชีวิตได้ราว 7 วัน ส่วน เลขาเสียชีวิตได้ประมาณ 5 วัน เมื่อตรวจสอบกล้องวงจรปิดไม่พบว่ามีคนนอกเกี่ยวข้อง ตำรวจเร่งสอบสวนหาสาเหตุการเกิดเหตุที่แท้จริง
ล่าสุดมีรายงานจาก พ.ต.อ. กัมปนาท ณ วิชัย ผกก.สภ.หัวหินว่า ขณะนี้ได้ส่งร่างให้แพทย์โรงพยาบาลหัวหิน ชันสูตรอย่างละเอียด เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงแล้ว ซึ่งเบื้องต้นตรวจร่างกายพบถูกยิงที่บริเวณหน้าอก 1 นัด ส่วน นางสุ เลขา มีบาดแผลถูกยิงที่ศีรษะ 1 นัด และพบอาวุธปืนกล็อก 19 ขนาด 9 มม. ยังมีกระสุนในรังเพลิง ตกอยู่ใกล้ตัว โดยขณะนี้ได้ส่งอาวุธปืนให้พิสูจน์หลักฐานตรวจพิสูจน์ดีเอ็นเอ
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ตรวจที่เกิดเหตุ พบโกศบรรจุกระดูกวางใกล้ศพจำนวน 2 โกศ และยังตรวจพบจดหมายที่เขียนด้วยลายมือคล้ายกับพินัยกรรม และจดหมายสารภาพผิด จำนวน 2 ฉบับ ระบุชื่อในจดหมายดังกล่าวว่า นางสุ เป็นผู้เขียน
โดยจดหมายฉบับแรก ระบุวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2567 มีใจความสรุปได้ว่า หาก นางสุ (เลขา) เสียชีวิตลงด้วยเหตุอันใดก็ตาม ได้ทำพินัยกรรมฉบับนี้เพื่อแสดงเจตจำนงว่า ขอมอบบ้านและที่ดินจำนวน 2 แปลง ให้กับบุตรสาวทั้ง 2 คน โดยแบ่งให้คนละ 50% ส่วนสามีชาวต่างชาติ ให้อยู่ในบ้านได้จนวันตาย แต่ไม่มีสิทธิ์ในที่ดินและบ้านดังกล่าว
ส่วนจดหมายฉบับที่ 2 ระบุวันที่เป็นวันที่ 1 มีนาคม 2567 เขียนเพียงสั้นๆ ว่า "ทุกอย่างเป็นอุบัติเหตุ เอาปืนมาเล่นโชว์กัน แล้วปืนเกิดลั่นใส่พี่ภัทร (เศรษฐีนี) ตกใจจนทำอะไรไม่ถูก ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เก็บจดหมายทั้ง 2 ฉบับไว้เป็นหลักฐาน โดยจะนำไปตรวจสอบเพิ่มเติมว่าใช่ลายมือของนางสุ จริงหรือไม่ ก่อนที่จะสรุปสาเหตุต่อไป
จากการตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดหลายมุมของบ้าน ตอนนี้ฝ่ายสืบสวนกำลังตรวจสอบอยู่ เบื้องต้นไม่มีรถหรือบุคคลต้องสงสัยเข้ามาในเขตบ้าน หรือบริเวณใกล้เคียง ในบ้านไม่มีร่องรอยของการงัดแงะหรือคนเข้ามาในบ้าน คาดว่าขณะเกิดเหตุไม่มีใครเข้ามาในบ้าน ไม่มีบุคคลที่ 3 หรือไม่มีพยานหลักฐานอื่นเพิ่มเติมว่ามีบุคคลที่ 3 เข้ามาเกี่ยวข้อง
เบื้องต้นได้คุยกับเพื่อนของเลขาฯ สาว ทราบว่า นางภัทร และ นางสุ เลขาฯ มีลักษณะการคบหาที่เป็นเพื่อนผู้หญิงด้วยกัน มีการดูแลกันพิเศษเกินเพื่อน มูลเหตุจริงๆ น่าจะเป็นเรื่องของความรัก ความหึงหวง แต่ทั้งสองจะมีปัญหาอะไรกันหรือไม่นั้น ยังไม่ทราบ
จากวันที่เสียชีวิตจนถึงวันที่พบร่าง ยังไม่พบว่ามีใครเข้าออกบ้าน อาจจะมีโอกาสเตรียมการไว้ก่อน เพราะก่อนหน้านี้ นางภัทร มีการโพสต์เฟซบุ๊กตัดพ้อ หมดใจ ลักษณะของจดหมายและพินัยกรรม ก็จะเชื่อมโยงกันลักษณะของชีวิตที่ไม่สมหวัง
นอกจากนี้พ.ต.อ.กัมปนาท ยังได้กล่าวทิ้งท้ายว่า "คดีนี้พยานหลักฐานค่อนข้างสมบูรณ์ เหลือเพียงแค่รอผลชันสูตรพลิกศพจากแพทย์ รอผลตรวจดีเอ็นเออาวุธปืนและปลอกกระสุน ตอนนี้ทยอยเชิญญาติและผู้เกี่ยวข้องมาสอบคำ ประเด็นของบุคคลที่ 3 ก็ไม่ตัดทิ้ง ต้องเคลียร์ให้ครบทุกประเด็น"