จากเหตุยิงกันบริเวณหน้าร้านเหล้าดังปิ่นเกล้า ที่ตั้งอยู่ภายในศูนย์การค้าแห่งหนึ่งย่านปิ่นเกล้า เมื่อคืนวันที่ 14 มีนาคม2567 ที่ผ่านมา เป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 ราย และมีผู้เสียชีวิต 1 ราย คือ นายธนู สำลี หรือตี๋ อายุ 29 ปี เหตุเกิดในท้องที่ สน.บางยี่ขัน หลังเขม่นเหล่สาวคนเดียวกัน
ความคืบล่าสุด พันตำรวจเอกพายัพ สมบูรณ์ ผู้กำกับสน.บางยี่ขัน เปิดเผย ว่า เหตุการณ์ยิงกันหน้าสถานบันเทิงดังย่านปิ่นเกล้า ว่า ก่อนเกิดเหตุ กลุ่มผู้ก่อเหตุและกลุ่มคนตายได้เข้าไปเที่ยวที่ร้าน โดยมากันฝั่งละประมาณ 7 คน ได้มีปัญหากันจากการที่รุ่นน้องของคนตายไปชนแก้วกับผู้หญิงอีกกลุ่มหนึ่ง ซึ่งเป็นคนเดียวกันกับที่กลุ่มผู้ก่อเหตุไปชนแก้วมาก่อนหน้านี้ จึงทำให้มีปากเสียงทะเลาะกัน
แต่ต่อมารุ่นน้องของคนตายก็ได้เข้าไปยกมือไหว้ขอโทษกลุ่มก่อเหตุแล้ว โดยมีพยานในร้านยืนยันว่าทั้ง 2 ฝ่ายเคลียร์กับจบแล้ว
ล่าสุด ศาลอาญาตลิ่งชัน ออกหมายจับผู้ก่อเหตุในคดีนี้แล้ว คือ "นายอธิภัทร ธรรมบุตร" ในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา พยายามฆ่าผู้อื่น พกพาอาวุธปืนในที่สาธารณะ และยิงปืนในเมืองโดยไม่มีเหตุอันควร ซึ่งทางตำรวจสนบางยี่ขันอยู่ในระหว่างการติดตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดี
นอกจากนี้ ผกก.สน.บางยี่ขัน เผยอีกว่า ขณะนี้สามารถตรวจยึดรถต้องสงสัยได้แล้ว 1 คัน เป็นรถ Mercedes Benz 5 ประตู เลขทะเบียน 7กถ 2465 กรุงเทพมหานคร ซึ่งทางชุดสืบสวนได้ตามแกะรอยจนพบว่ารถคันดังกล่าวไปจอดทิ้งไว้ริมถนนบริเวณ ต.จอมปลวก อ.บางคนที จ.สมุทรสงคราม
ขณะที่ผู้ก่อเหตุ ทางตำรวจพิสูจน์ทราบจนสามารถออกหมายจับได้แล้ว คือ นายอธิภัทร ธรรมบุตร อายุ 23 ปี (เกิดปี 2544) ในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา พยายามฆ่าผู้อื่น /พกพาอาวุธปืนในที่สาธารณะ และยิงปืนในเมืองโดยไม่มีเหตุอันควร เคยมีประวัติก่ออาชญากรรมถูกดำเนินคดี เมื่อปี 2565 ที่ สน.บางขุนเทียน ในข้อหาพกพาอาวุธปืนและทำให้เสียทรัพย์ ทั้งนี้จากการข่าวพบว่ายังอยู่ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร
โดยผู้สื่อข่าวสอบถามว่าผู้ก่อเหตุมีพฤติกรรมลักษณะของอันธพาลหรือมีอิทธิพลหรือไม่ ผกก.บางยี่ขัน กล่าวว่า น่าจะมีลักษณะพฤติกรรมของความคึกคะนอง เพราะอยู่ในช่วงวัยรุ่นและมากันหลายคน ส่วนอาวุธปืนนั้น คาดว่าคนร้ายน่าจะติดตัวไปด้วยและเตรียมที่จะเรียกหญิงคนที่ชนแก้วมาสอบปากคำในเร็ววันนี้
จากข้อมูลพบว่า ขณะที่หลบหนีนั้น คนร้ายได้นั่งอยู่ที่เบาะหลังฝั่งคนขับ โดยมีเพื่อนอีก 2 คนนั่งข้างหน้าและขับรถหลบหนีออกไป