"แอน จักรพงษ์" แถลงล่าสุด จ่อฟ้องกลับคู่กรณี ลั่น เหมือนเป็นการกลั่นแกล้ง

 สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2567 ที่ผ่านมา บริษัท ทีซีจี โซเชียลมีเดีย จำกัด ได้มีการจัดแถลงความคืบหน้ากรณีฟ้องร้องผู้บริหาร บริษัท เจเคเอ็น โกลบอล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กรณีการยักยอกทรัพย์ โดยได้มีการระบุว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ได้ดำเนินการออกหมายเรียก จักรพงษ์ จักราจุฑาทิพย์ หรือ "แอน จักรพงษ์" และกรรมการบริษัทอีก 4 คน ไปแล้วถึง 2 ครั้ง โดยหมายเรียกครั้งที่ 2 ครบกำหนดการรายงานตัวในวันที่ 29 ก.พ. 2567

โดยตอนนั้น บริษัท เจเคเอ็น  โกลบอล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ก็ได้มีการส่งตัวแทนฯ  ติดต่อขอเลื่อนการเข้ารายงานตัว โดยการเลื่อนหมายเรียกฯ นัดครั้งสุดท้ายได้ฟินสุดลงเมื่อวันที่ 19 มี.ค. ที่ผ่านมา แต่ยังไม่มีกรรมการบริษัทฯ หรือ แอน จักรพงษ์ เข้ามารายงานตัวแต่อย่างใด ดังนั้นในขั้นตอนต่อไปคืออยู่ระหว่างการดำเนินการเตรียมออกหมายจับ แอน จักรพงษ์ และกรรมการบริษัทฯ ทั้ง 4 คน

ก่อนที่ต่อมา ทางเพจ JKN Hi Shopping ได้ออกมาเคลื่อนไหวถึงประเด็นดังกล่าว พร้อมระบุว่า ในวันที่ 23 มี.ค. เวลา 14.10 น. แอน จักรพงษ์ จะจัดแถลงการณ์ด่วนผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียของ บริษัท เจเอเอ็น โกลบอล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) โดยจะมีการฟ้องกลับ บริษัท ทีซีจี โซเชียลมีเดีย จำกัด ในกรณีฟ้องเท็จ แจ้งความเท็จและหมิ่นประมาท

 แอน จักรพงษ์ กล่าวว่า ก่อนหน้าได้มีการรู้จักกับบริษัทคู่กรณีที่ได้มีการเข้ามาพูดคุยและเจรจาในธุรกิจเรื่องของ MU Coin (เหรียญจักรวาล) โดยตอนนั้นทางบริษัทคู่กรณีได้มีการนำเอาเอกสาร 2 ฉบับที่เป็นภาษาอังกฤษมีความเกี่ยวข้องกับข้อมูลทางธุรกิจมาให้ตนเซ็น โดยตอนนั้นตนก็ได้มีการเซ็นเอกสารไปจริงๆ

ซึ่งเข้าใจว่าตอนนั้นการเซ็นเอกสารดังกล่าวจะไม่มีผลต่อการทำธุรกิจร่วมกัน เพราะเอกสารดังกล่าวไม่ใช่เอกสารการทำสัญญาร่วมกันทำธุรกิจ แต่บริษัทดังกล่าวได้มีการนำเอาลายเซ็นและเอกสารดังกล่าวไปแอบอ้างและนำไปใช้ในการทำธุรกิจที่ส่งผลกระทบต่อบริษัทของตนอย่างมาก

ตนทราบมาว่าทางคู่กรณีได้มีการฟ้องมาที่ตนเป็น 1 ล้านบาทแต่ศาลให้วางเงินกับศาล ซึ่งบริษัทคู่กรณีก็ยังไม่ได้มีการวางเงินก็เท่ากับว่าศาลยังไม่ได้ฟ้องและจริงๆแล้วพวกเราเป็นฝ่ายที่เสียหายตอนนี้เราคงจะต้องอยู่ที่สถานีตำรวจหรืออยู่ที่ศาลไม่ใช่มานั่งแถลงข่าวแบบนี้

โดยในวันนี้ตนจะไปแจ้งความกับบริษัทคู่กรณีในข้อหาแจ้งความอันเป็นเท็จ ,ฟ้องเท็จและเบิกความเท็จ,นำเครื่องหมายการค้าไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาตและในความผิดฐานที่รู้อยู่แล้วว่าไม่ได้มีการกระทำความผิดอาญาเกิดขึ้น แต่ยังไปแจ้งพนักงานสอบสวนว่ามีความกระทำความผิดอาญาเพื่อให้ทางทีมผู้บริหารของ JKN ได้รับโทษ

นอกจากนี้ แอน จักรพงษ์ ยังกล่าวอีกว่า เรื่องราวที่เกิดขึ้นเหมือนจะเป็นการกลั่นแกล้ง ฝั่งนั้นคงคิดว่าตนจะไม่ดำเนินการใดๆ แต่ไม่ใช่ในวันนี้ตนไม่ได้ทำเพื่อตัวเองแต่จะทำเพื่อผู้ถือหุ้นและเพื่อประชาชนที่อาจจะโดนกลั่นแกล้งเช่นเดียวกัน ในวันนี้ตนจะเป็นตัวอย่างให้กับใครหลายๆคนว่าเราสามารถดำเนินการตามกฎหมายอย่างถูกต้องได้