เจ้าหน้าที่เจอวิธีกู้ตู้คอนเทนเนอร์ หลังรถพ่วงพุ่งชนตึก ป้องกันตึกถล่ม

จากกรณีเมื่อ วันที่ 6 เม.ย.67 ที่ผ่านมา เกิดเหตุรถพ่วงตู้คอนเทนเนอร์พุ่งชนตึกแถวจนพังเสียหาย เจ้าหน้าที่ทีมช่าง ได้ทำการเชื่อมและประกอบเหล็กค้ำยันเพื่อป้องกันอาคารตึกแถวทรุดตัวพังถล่ม ในส่วนเจ้าที่ สำนัก ป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัยกรุงเทพมหานคร และมีการทำจุดยึดโยง เพื่อป้องกันไม่ให้รถเทรลเลอร์พลิกตะแคงขึ้นมาอีกซ้ำ และได้มีการพยามเปิดตู้คอนเทนเนอร์เพื่อนำสินค้าซึ่งภายในเป็นชุดรอกเหล็กโซ่จำนวนมากบรรจุอยู่ในลังกระดาษ บรรจุอยู่เต็มตู้คอนเทนเนอร์

โดยมีทีมอาสาสมัครเข้าสนับสนุน และในส่วน ของเจ้าของตู้คอนเทนเนอร์ได้จัดเตรียมกำลังคนงานเพื่อเคลื่อนย้ายรอกเหล็ก ซึ่งอยู่ภายในตู้คอนเทนเนอร์ออกมาให้มากที่สุดโดยมีการลำเลียงโดยใช้คนงาน เพื่อเป็นการลดน้ำหนักของตู้คอนเทนเนอร์เพื่อเตรียมการเคลื่อนย้ายตู้คอนเทนเนอร์ออกคาดว่าใช้เวลา5-6 ชั่วโมง กว่าจะแล้วเสร็จ

ในขณะที่ ดร.ธเนศ วีระศิริ ที่ปรึกษานายกวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ตามตำแหน่งที่เรามาร์คไว้ในเบื้องต้นแล้ว กำลังดูว่ามีตำแหน่งไหนคาดเคลื่อนหรือไม่ เราพยายามถ่ายน้ำหนักให้ตู้แบริเออร์ไปอยู่ในตำแหน่งล้อ เพราะฉะนั้นตอนนี้เราพร้อมแล้วติดปัญหาตรงอีกนิดเดียว คือต้องเข้ามาค้ำตัวอาคาร ซึ่งเครนพึ่งมาก็ต้องรอ เดี๋ยวเขาพอที่จะค้ำเสร็จแล้วเราก็จะเริ่มขบวนการ ในตอนนี้อุปสรรคและปัญหาอะไรยังไม่มี เราก็พยายามมองหากันอย่างรอบคอบแล้วก็มีการปรึกษาหารือกันอย่างเป็นระยะๆ เราก็อยากให้เสร็จภายในวันนี้ 

ถ้าไม่เสร็จในวันนี้ก็ต้องต่อในตอนเช้าในวันพรุ่งนี้แต่ว่าตอนนี้เรามีการค้ำค้ำยันตัวอาคารเพื่อไม่ให้ถล่มลงมา ในขณะนี้เรากำลังใช้การคำนวณจากระบบคอมพิวเตอร์และคราวนี้เนี่ยเราต้องคำนวณน้ำหนักของตู้คอนเทนเนอร์ว่ามีน้ำหนักมากน้อยแค่ไหนและถ้าเกิดเอาออกมาอาคารจะทรุดตัวลงมาไหม

เราใช้วิธีคำนวณอย่างละเอียดรอบคอบแล้วเราไม่ได้ทำโดยพลการเราต้องคำนวณอย่างระมัดระวังเราจะไม่ทำงานโดยใช้ความประมาท โดยเฉพาะในส่วนของตัวอาคาร ที่ 1 และในส่วนที่ 2 และที่ 3 ซึ่งเป็นตัวการที่ต่อกันแถวนี้เราก็ต้องมาดูว่าในส่วนตัวอาคารนั้นถ้าเกิดเราเอาตู้คอนเทนเนอร์ออกมาแล้วเนี่ยมันจะมีรอยแตกร้าวเพิ่มขึ้นมาหรือไม่แล้วเราคำนวณกันเป็นในแบบของตัวเลขเพื่อความแม่นยำและความปลอดภัยของทุกๆฝ่าย