กลายเป็นประเด็นที่ชาวเน็ตต่างวิพากษ์วิจารณ์และแชร์สนั่นโซเชียล เมื่อมีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งได้ออกมาเผยสภาพสวนสัตว์แห่งหนึ่งที่เห็นสภาพแล้วรับไม่ได้ สัตว์ในกรงนอนหมดแรง แทบไม่มีน้ำ อาหารที่ให้ไว้ก็เน่าแถมขึ้นรา ลั่นสร้างป้ายเหมือนวิมานของจริงคือนรก เห็นแล้วหดหู่มาก วอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาดูแล โดยผู้โพสต์โพสต์รูปและระบุว่า
"RIPสวนสัตว์... ขอความคิดเห็นหน่อยครับ มีแล้วเป็นแบบนี้ ไม่ต้องมีเสียดีกว่า สงสารชีวิตสัตว์ มาแล้วไม่ประทับใจอย่างมาก ร้อนมาก ในกรงสัตว์แม้แต่น้ำก็อย่างที่เห็น บางกรง สัตว์นอนเหมือนตาย น้ำสักหยดก็ไม่มี ไม่ทราบว่าให้น้ำอย่างไร หรือให้สัตว์เปิดก๊อกดื่มเอง
ความสะอาด เต็ม 10 ให้ 0 เรื่องการดูแลสัตว์ เต็ม 10 ให้ 1 ถือว่าให้ดูแลที่มีชีวิตรอด บางกรงร้างมากแต่มีสัตว์อยู่
อยากถามว่าส่วนนี้ใครดูแล ใช่ในสังกัดกระทรวง ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือไม่?? มีหน่วยงานไหนที่ดูแลเรื่องสวนสัตว์ สงสารสัตว์ที่สวนสัตว์....งบประมาณได้น้อย หรือ ใช้จ่ายเองกันหมดครับ (ข้อสงสัย) เข้าไปเหมือนป่าช้า ร้าง เงียบ ผู้ดูแลก็มีแต่ทหาร ไม่รู้ว่าเอาทหารเกณฑ์มาหรือเปล่า ?
การให้อาหาร ให้เยอะ ก็ทิ้งจนเน่า น้ำเสีย หญ้าแห้ง สร้างวิมานสวยน่าเที่ยวแค่ป้ายเชิญชวน เข้าไปดูจริงนึกว่า นรก มาเที่ยวคิดไว้ว่าต้องน่าตื่นเต้น มีความสุข แต่ความเป็นจริงคือ มาถึงแล้วกลับรู้สึกหดหู่ #ให้ภาพมันเล่าเรื่อง ถ้าอยากพบความจริงให้เดินทางมาดูเองเลยครับ คะแนน 0/10"
ซึ่งหลังจากโพสต์ดังกล่าวเผยแพร่ออกไป ก็กลายกลายเป็นกระแสข่าวที่โด่งดังที่ถูกพูดถึงกัยอย่างกว้างขวาง
เกี่ยวกับประเด็นดังกล่าว ล่าสุดคุณซีเจ้าของโพสต์เปิดใจกับไทยนิวส์ออนไลน์ เล่าว่าการไปเที่ยวครั้งนี้ทำให้ยิ่งหดหู่ มันหดหู่ตั้งแต่ทางเข้า แม่ค้าขายของที่ไม่มีคุณภาพ มีน้ำเต้าหู้ขายก็บูดจับกันเป็นก้อน ข้าวโพดก็ขึ้นรา ตรงม้าก็เหมือนมีขี้เรื้อนที่หลัง ภาพที่รู้สึกหดหู่มากที่สุดคือภาพของเม่นที่นอนหมดแรงเอาเท้าพาดกับถ้วยใส่น้ำอยู่ ตอนแรกคิดว่าตายไปแล้วด้วยซ้ำ
ที่มาโพสต์เพราะต้องการให้ทุกคนได้รับรู้ถึงสภาพความเป็นจริงของที่นี่ เวลามีจัดงานกิจกรรมทีก็มีการดูแลแต่พอไม่มีงานก็ปล่อย แถมเล่าว่าบางกรงมีก๊อกน้ำอยู่
เจ้าหน้าที่ก็บอกว่าสัตว์มันฉลาดเดี๋ยวก็เปิดน้ำกินเอง ทั้งๆที่เจ้าหน้าที่ควรจะเติมน้ำให้เพียงพอ แต่นี่กรงไหนที่มีน้ำก็เป็นน้ำที่ไม่สะอาด เรียกว่าน้ำเน่าได้เลย อยากให้มีการดูแลสัตว์ที่ดีมากกว่านี้
ขอบคุณ Kritsada Chaisongkram