สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้หนุ่มลำลูกกา จ.ปทุมธานี วัย 35 ปี ได้เดินทางเข้าร้องทุกข์ขอความช่วยเหลือกับนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด เหตุทนไม่ไหวเพื่อนบ้านสับไก่ตั้งแต่ตี1 เสียงดัง โดยเพื่อนบ้านรายนี้ มาเช่าบ้านอยู่ได้ประมาณ 1 ปี ประกอบอาชีพขายไก่ย่าง ได้นำไก่มาสับทำให้เกิดเสียงดังตั้งแต่ตี 1 ถึงเช้าทุกวัน จนนอนไม่หลับ ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของคนในครอบครัว ล่าสุดเจรจาลงตัวเพื่อนบ้านพร้อมแก้ไขตามข้อตกลง 2 ข้อ
โดยก่อนหน้านี้นั้น นายภูวนาถ หนุ่มผู้ร้องทุกข์ กล่าวว่า ตนอยู่บ้านของตัวเองมาตั้งแต่เด็กด้วยความสงบสุข กระทั่งเมื่อประมาณ 1 ปีที่ผ่านมา ได้มีพ่อค้าขายไก่ย่างมาเช่าบ้านอยู่ข้างๆบ้านของตน หลังจากวันนั้นชีวิตสงบสุขของตนก็เปลี่ยนไปตลอดกาล เนื่องจากเพื่อนบ้านคนใหม่ตื่นมาสับไก่ตั้งแต่ตี 1 จนถึงเช้าทุกวัน เสียงสับไก่ดังมาก เนื่องจากเพื่อนบ้านสับอยู่ตรงหัวนอนของตน นอกจากนี้ยังจุดเตาถ่านเพื่อนึ่งข้าวเหนียวและย่างไก่ ทุกๆคืน กลิ่นควันจากเตาถ่านโชยเข้ามาในห้องตนทุกวัน ทำให้ตนนอนไม่ได้เลย
ตนพยายามพูดคุยเจรจาขอความเห็นใจกับเพื่อนบ้านอยู่หลายครั้งแต่ก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ตนเคยไปแจ้งความที่ สภ.ลำลูกกา และ ไปแจ้งเรื่องที่ กองสาธารณะสุข อบต.ลำลูกกา เพื่อขอให้ช่วยเป็นตัวกลางในการเจรจาแล้ว แต่ก็ไม่เป็นผล เพื่อนบ้านยังคงสับไก่อย่างเมามันส์ต่อเนื่อง สงผลกระทบให้สุขภาพของตนและคนในครอบครัวย่ำแย่ ตนไปทำงานก็คอยจะหลับตลอดเวลา
เนื่องจากกลางคืนไม่ได้นอน ตนเห็นว่าหากปล่อยไว้แบบนี้ตนอาจจะสติหลุดตัดสินใจทำอะไรที่ไม่คาดคิดก็เป็นได้ เพื่อนๆจึงแนะนำให้ตนเดินทางมาขอความช่วยเหลือจากเพจสายไหมต้องรอด
เกี่ยวกับกรณีดังกล่าวล่าสุด ทีมงานสายไหมต้องรอดลงพื้นที่เพื่อเป็นคนกลางในการเจรจาช่วยเหลือแล้ว ซึ่งเรื่องก็จบด้วยดี กรณีหนุ่มลำลูกกา ร้องสายไหมต้องรอด หลังทนฟังเสียงเพื่อนบ้านสับไก่ทั้งคืนมานานนับปี วันนี้ได้ข้อยุติแล้ว เพื่อนบ้านพร้อมแก้ไข คือ
1.เปลี่ยนเวลาเตรียมนึ่งข้าวเหนียว ย่างไก่ สับไก่ จากช่วงดึกๆ มาเป็นช่วงเย็น - หัวค่ำ เพื่อให้เพื่อนบ้านได้มีเวลาพักผ่อน
2. เปลี่ยนตัวก่อไฟที่มีกลิ่นเหม็นและควันเยอะ มาเป็นก้อนแอลกอฮลลเหมือนร้านหมูกะทะใช้ (ไร้ควัน)