กลายเป็นประเด็นที่หลายคนต่างให้ความสนใจอย่างมากในโลกออนไลน์ กรณีหญิงสาวรายหนึ่งที่ออกมาโพสต์แชร์ประสบการณ์ถูกแฟนหนุ่มที่เป็นครู คบกันมา 9 ปี ตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัย ทิ้งไปคุยกับสาวรุ่นน้องที่เป็นครูเหมือนกัน เรื่องราวนี้เกิดขึ้นจากมีหญิงสาวรายหนึ่งโพสต์ในเฟซบุ๊ก เขียนถึงเรื่องราวชีวิตรัก 3 เส้าของตนเอง พร้อมระบุข้อความว่า "ร้องไห้มาตั้งแต่โรงเรียนถึงกุสุมา" และอีกข้อความระบุว่า "ลำพูนเป็นเมืองเงียบ ๆ แต่แอบแซ่บ #กุสุมา #สันป่าเหียง"
โดยเธอเริ่มเล่าว่า หลังตนเองเรียนจบก็ได้ทิ้งครอบครัวมาอยู่กับแฟนที่ จ.ลำพูน หวังมาสร้างอนาคตร่วมกัน ตั้งใจทำงานเพื่อเปิดร้านกาแฟ ทำให้ไม่มีเวลาเที่ยวกับแฟนเหมือนเดิม จนวันหนึ่งเริ่มเอะใจ เพราะแฟนมีพฤติกรรมเปลี่ยนไป เช่น จอดรถนาน เข้าห้องน้ำนาน ซึ่งตนก็สงสัยผู้หญิงคนหนึ่ง เป็นรุ่นน้องในที่ทำงานของแฟน จึงตัดสินใจเช็กมือถือทั้งที่ไม่เคยเช็ก ซึ่งที่ผ่านมาแฟนเคยนอกใจนอกกายมาแล้ว 1 ครั้ง แต่เรื่องก็จบมาแล้ว ตนก็ทำใจและเชื่อว่าเขาจะไม่ทำอีก
สุดท้ายแล้วก็พบว่าเรื่องเกิดขึ้นอีกจนได้ เจอแชตของแฟนคุยกับรุ่นน้อง มีภาพของรุ่นน้องส่งมาให้แฟน มีข้อความบอกคิดถึง อยากเจอหน้า เมื่อเอาไปให้แฟนดู เขาก็อธิบายเหตุผลว่าที่ทำแบบนี้เพราะไม่มีเวลาให้เขา ไม่สนใจเขา ตนจึงขอโอกาสแก้ไข เพราะเราผ่านอะไรมาด้วยกันมากมาย แต่เขากลับบอกว่าอยากลองใช้ชีวิตในแบบที่เขาอยากทำ และขอลดสถานะ ซึ่งตนก็ตกลงและขออยู่กับเขาจนถึงโบนัสออก และขอดูแลเขาเหมือนเดิม แต่เขาติดรุ่นน้องคนนั้นมาก
จนต่อมาจับได้ว่ารุ่นน้องคนนั้นขนเสื้อผ้ามานอนที่บ้าน และมีความสัมพันธ์กันบนเตียงที่ตนกับเขาตั้งใจเก็บเงินซื้อมันด้วยกัน จนมีปัญหากันทำให้ตนโดนไล่ออกจากบ้าน แต่ตนยืนยันว่าไม่ได้ทำอะไรผิดและอยู่ต่อ โดยระหว่างนั้นก็โดนทำร้ายร่างกาย และบางครั้งเขายังพยายามมีอะไรด้วยจนตนทนไม่ไหว จึงตัดสินใจออกจากบ้านทั้งที่ยังไม่ครบกำหนด พร้อมกับฝากข้อคิดถึงคนที่คิดจะนอกใจ ถ้าหมดรักกันแล้ว บอกกันดี ๆ เถอะ เลิกกันก่อน อย่าทรยศ เพราะคนที่โดนนอกใจมันทุกข์และเจ็บปวดมาก นอกจากนี้สาวเจ้าของโพสต์ยังได้เผยภาพบทสนทนาระหว่างอดีตแฟนกับสาวรุ่นน้องอีกด้วย
เมื่อเรื่องราวดังกล่าวได้มีการโพสต์ออกไป ปรากฎว่ามีผู้ติดตามและแชร์กระหึ่มโซเชียล จนมีผู้ตั้งชื่อว่า "กุสุมา-สันป่าเหียง" อีกทั้งในเอ็กซ์ (X) ก็มีติดแฮชแท็ก #กุสุมา #สันป่าเหียง อันเนื่องมาจากไลน์ของครูที่มีการสนทนากับครูสาวไปนั่งดื่มกินกันที่ร้านหม่าล่าชื่อ "กุสุมา" ส่วน "สันป่าเหียง" ก็มาจากชื่อชุมชน ซึ่งเป็นสถานที่ทำงานของครูทั้งสองนั้นเอง
เรื่องดังกล่าวร้อนไปถึงวัดสันป่าเหียง ซึ่งพบว่ามีผู้สอบถามกันมากมายว่าเกิดอะไรขึ้น ทางวัดถึงกับโพสต์ลงเพจเฟซบุ๊ก วัดสันป่าเหียง จังหวัดลำพูน มีข้อความว่า "ตุ๊เจ้าบะหุเรื่องเน้อ ห้ามถาม และไม่ใช่เรื่องของสันป่าเหียงนะครับ" ขณะที่ชาวเน็ตต่างเข้ามาให้กำลังใจสาวเจ้าของเรื่อง พร้อมกับแนะนำยื่นฟ้องครูสาวที่มาเป็นชู้กับสามี และดำเนินคดีให้ถึงที่สุดด้วย
ล่าสุด (24 เมษายน 2567) ทางเพจเฟซบุ๊ก อีซ้อขยี้ข่าว ซึ่งเป็นผู้ติดตามเรื่องราวดังกล่าว ก็ได้อัปเดตว่า กุสุมาสาวมือที่สามนั้นได้ย่องเงียบจดทะเบียนกับครูหนุ่มเรียบร้อยแล้ว