วันที่ 26 เมษายน 2567 ศาลออกหมายจับ "สนธิญา สวัสดี" เบี้ยวฟังคำพิพากษา หมิ่นประมาท "เสรีพิศุทธ์" หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย โดยผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ได้โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่าศาลได้ออกหมายจับ นายสนธิญา สวัสดี ในคดีหมายเลขดำที่ อ 1114/2564 และหมายเลขแดงเลขที่ อ 3136/2565 ระหว่าง พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ โดย พล.ต.ท.จุตติ ธรรมมโนวานิช ผู้รับมอบอำนาจ เป็นโจทก์ กับ นายสนธิญา สวัสดี เป็นจำเลย
โดยศาลนัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ วันที่ 25 เมษายน 2567 ผู้รับมอบฉันทะทนายโจทก์มาศาล ส่วนจำเลยทราบนัดโดยชอบแล้วไม่มาศาล มีพฤติการณ์หลบหนี ศาลจึงให้ออกหมายจับจำเลย ให้มาฟังคำพิพากษาในนัดหน้า โดยให้เลื่อนการอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ไปในวันที่ 27 พฤษภาคม 2567 เวลา 09.30 น.
สำหรับคดีดังกล่าว พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ได้ยื่นฟ้องนายสนธิญา ต่อศาลอาญารัชดา เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2564 เป็นคดีหมายเลขดำที่ อ 1114/2564 ต่อมาวันที่ 7 พฤศจิกายน 2565 ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาว่า
จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 137 มาตรา 328 ประกอบมาตรา 326 การกระทำของจำเลยเป็นความผิดกรรมเดียว ผิดต่อกฎหมายหลายบทให้ลงโทษบทหนักสุดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 ฐานหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา จำคุก 1 ปี ปรับ 100,000 บาท
จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก 6 เดือน และปรับ 50,000 บาท
พิเคราะห์พฤติการณ์แห่งคดีและรายงานการสืบเสาะแล้ว ไม่ปรากฏว่าจำเลยเคยต้องโทษจำคุกมาก่อน เห็นควรให้โอกาสจำเลยในการปฏิบัติตนเป็นพลเมืองดีต่อไป โทษจำคุกให้รอไว้ 2 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 ไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามมาตรา 29, 30
ที่โจทก์ขอให้นับโทษในคดีนี้ต่อจากโทษของจำเลยที่ศาลอาญาเป็นคดีอาญาหมายเลขดำที่ 1010/2564 นั้น คดีดังกล่าวอยู่ระหว่างการพิจารณาและคดีของศาลแขวงดุสิต ที่ อ 590/2563 คดีดังกล่าวศาลมีคำพิพากษาให้รอการลงโทษ จึงไม่อาจนับโทษต่อจากคดีดังกล่าวได้ ให้ยกคำร้องขอในส่วนนี้