สืบเนื่องจากเมื่อช่วงกลางดึกของคืนวันที่ 23 เม.ย. เวลาประมาณ 00.30 น. (เช้าของวันที่ 24 เม.ย.) เกิดเหตุอดีตผู้บริหารสาววัย 51 ปี เมาสุราขับขี่รถยนต์เข้าด่านตรวจย่านเลียบถนนคู่ขนานมอเตอร์เวย์ในพื้นที่รับผิดชอบของ สน.ประเวศ โดยด่านดังกล่าวเป็นด่านตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ของ กองกำกับการ 5 กองบังคับการตำรวจจราจร ก่อนตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ได้ 104 มิลลิกรัมเปอร์เซนต์ ซึ่งเกินกว่ากฎหมายกำหนด จึงได้แจ้งสิทธิและแจ้งข้อกล่าวหา
เรื่องราวบานปลายจนมีการต้องคุมตัวไปดำเนินคดี ที่สน.ประเวศ ซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่เกิดเหตุ และมีการขัดขืนการคุมตัวจนมีการใช้เท้าถีบใบหน้ารองผู้กำกับการ 5 บก.จร. คนหนึ่งที่ทำหน้าที่ควบคุมเหตุการณ์ และเป็นหนึ่งในเจ้าหน้าที่ที่ร่วมคุมตัวผู้ก่อเหตุรายนี้
ทั้งนี้ ด้าน พ.ต.อ.สุรพงษ์ พุฒขาว ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลประเวศ ระบุว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นจากการที่ ตำรวจกองบังคับการจราจร มีการตั้งด่านตรวจวัดปริมาณ แอลกอลฮอล์ ที่บริเวณถนนคู่ขนานมอเตอร์เวย์ ก่อนเข้าซอยทางลัดออกซอยกรุงเทพกรีฑา ซอย 8 ซึ่งขณะนั้นเวลาประมาณ 00:30 น.ของเช้าวันที่ 24 เมษายน ที่ผ่านมา
โดยผู้ก่อเหตุได้ขับรถเบนซ์สีดำ เข้ามาที่ด่านตรวจ และตำรวจ บก.จร. ได้มีการเรียกตรวจตามขั้นตอน ซึ่งในตอนแรก ก็มีการยินยอมให้ตรวจวัดตามปกติ จนผลการตรวจวัดพบมีปริมาณ แอลกอลฮอลล์ สูงถึง 104 มิลกรัมเปอร์เซ็นต์ จึงมีการจะนำตัวไปส่ง สน.ประเวศเพื่อดำเนินคดี แต่ผู้ก่อเหตุเริ่มไม่ให้ความร่วมมือ จึงมีความจำเป็นต้องคุมตัวขึ้นรถไป ส่ง สน.ประเวศ
ขณะนำตัวขึ้นรถ เป็นช่วงการคุมตัวขึ้นที่เบาะหลังของรถตำรวจ และขณะที่ตัวผู้ก่อเหตุขึ้นรถไปแล้ว ช่วงขาของผู้ก่อเหตุอยู่นอกรถ ตัวรองผู้กำกับ บก.จร. ได้มีการพยายามรวบขาของผู้ก่อเหตุขึ้นรถเพื่อเดินทางแต่เป็นจังหวะที่ต้องมีการปล่อยมือเพื่อปิดประตูรถ ผู้ก่อเหตุได้ชักเท้าออกและถีบในลักษณะยันเข้าบริเวณใบหน้าด้านขวา ต่อเนื่องกับช่วงหมวกกันน็อก ทำให้ได้รับบาดเจ็บบริเวณใบหน้าเล็กน้อย
เมื่อการเดินทางมาถึงที่ สน. ประเวศ เป็นที่เรียบร้อย ผู้ก่อเหตุได้มีการให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนโดยยินยอมรับทราบข้อกล่าวหาในเรื่องการดื่มสุราแล้วขับรถ แต่ในส่วนข้อหาการทำร้ายร่างกายและขัดขวาง การปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าพนักงานผู้ก่อเหตุปฏิเสธและไม่ขอ ปากคำใดๆ ในประเด็นนี้โดยแจ้งว่าจะมีการประสานทนายความที่ไว้วางใจเดินทางเข้ามาให้ปากคำกับทางตำรวจอีกครั้งซึ่ง เบื้องต้นมีการนัดหมายกันเป็นทางลับ ว่าจะเป็นวันพรุ่งนี้
ทีมข่าวยังได้ตรวจสอบประวัติการถูกดำเนินคดีในข้อหาเมาแล้วขับของผู้ก่อเหตุรายนี้พบว่ามีประวัติการถูกจับกุมและดำเนินคดีในข้อหาเมาแล้วขับในวันที่ 17 สิงหาคม 2565 เวลา 4 ทุ่ม นั้นมีการถูกดำเนินคดีและศาลลงโทษรอลงอาญาเป็นเวลาสองปี โดยการจับกุมดังกล่าวเป็นการจับกุมในพื้นที่ใกล้กับจุดเกิดเหตุครั้ง และตำรวจที่เป็นผู้จับกุมเป็นตำรวจจาก กองกำกับการ 5 กองบังคับการตำรวจจราจรเช่นเดียวกันกับครั้งนี้
ส่วนตัวพ.ต.ท.ดาราธร ขจรศิลป์ รอง ผกก.5 ตำรวจสน. ประเวศจะมีการเชิญตัวมาให้ปากคำในรายละเอียดอีกครั้งแต่ในวันเกิด ตัวนายตำรวจคนดังกล่าวได้มีการให้ข้อมูลและมีการส่งมอบบันทึกจับกุมให้กับทางพนักงานสอบสวนสน. ประเวศเป็นที่เรียบร้อยเพราะคดีดังกล่าวเป็นการจับกุมซึ่งหน้าซึ่งมีการบันทึกจับกุมผู้ก่อเหตุในครั้งนี้เอาไว้อย่างละเอียดชัดเจนสามารถใช้ประกอบสำนวนคดีได้ ทั้ง 3 ข้อหา
ส่วนเรื่องของภาพจากกล้อง ประจำตัวของตำรวจ สามารถบันทึกเหตุการณ์ได้อย่างชัดเจนและเตรียมนำทั้งหมดเข้าไปหลักฐานในการดำเนินคดีอีกครั้ง
ก่อนที่ต่อมา Google ประเทศไทย ชี้แจงว่า "จากข่าวนี้ บุคคลที่ถูกกล่าวถึงได้ลาออกจากการเป็นพนักงานของ Google ตั้งแต่เดือน ม.ค. 2567" ซึ่ง อดีตผู้บริหารหญิงคนดังกล่าว จบการศึกษาระดับปริญญาเอก มีประสบการณ์ด้านไอทีมากกว่า 20 ปี เคยเป็นทั้งผู้บริหารบริษัทด้านไอทีชั้นนำ และเป็นอาจารย์พิเศษด้านโทรคมนาคมอีกด้วย