สืบเนื่องจากชาวเน็ตแห่แชร์โพสต์ของผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ที่ได้โพสต์รูปภาพพร้อมข้อความเตือนอุทาหรณ์คนชอบสั่งครีมออนไลน์ ใช้แล้วหน้าพังกว่าเดิม นอกจากนี้ยังระบุว่า "ทางบริษัทครีมจะโอนเงินค่าครีมมาคืนแค่นั้นเองเหรอ และยังมาว่าเราใช้ครีมมั่วไม่ถามทางร้าน อย่างนี้ก็ได้เหรอ ศคบ. และโหนกระแสต้องเข้ามั้ย หน้าพังเกินรับสภาพไม่ไห ใครพาไปร้องเรียนหน่อย ถ้ามาเจอสภาพหน้าจริงรับไม่ได้จริงๆๆดำทั้งหน้า ทุเรศมากและมาโทษเราว่าใช้ผิดวิธี ลูกค้าคนอื่นไม่เห็นมีใครเป็นมีเราเคสแรกและถ้าแพ้ครีมต้องแพ้ตั้งแต่วันแรก และรู้ว่าแพ้จะยังใช้มาอีกถึง3 วัน เอ่อปรึกษา ศคบ.ดีกว่าค่ะ "
ล่าสุดวันที่ 30 เม.ย.67 ภก.วีระชัย นลวชัย รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา สั่งการให้ตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยประสานสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) ปราจีนบุรี ส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบขอรายละเอียดจากผู้เสียหาย
พบเป็นเครื่องสำอาง 2 รายการ บรรจุอยู่ในกล่องสีทองและสีเงิน (ดังภาพ) ฉลากแสดงภาษาต่างประเทศ ไม่มีภาษาไทยทั้งที่กล่องและขวดผลิตภัณฑ์ ไม่พบการจดแจ้งเครื่องสำอาง ผู้เสียหายให้ข้อมูลว่า เพจเฟซบุ๊กที่ขายเครื่องสำอางนั้น ไม่สามารถเข้าถึงได้แล้ว เนื่องจากบล็อกผู้เสียหายและเปลี่ยนชื่อบัญชีไปแล้ว
ภก.วีระชัย กล่าวว่า ย้ำเตือนถึงการซื้อเครื่องสำอางทางออนไลน์ ควรเลือกซื้อสินค้าจากผู้ขายที่น่าเชื่อถือ หรือร้านค้าออนไลน์ที่จดทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์กับกรมพัฒนาธุรกิจการค้าแล้ว เพราะหากใช้แล้วเกิดปัญหาสามารถติดตามย้อนกลับได้
ก่อนซื้อให้ตรวจสอบข้อมูลการได้รับอนุญาตที่เว็บไซต์ www.fda.moph.go.th หัวข้อ “ตรวจสอบการอนุญาตผลิตภัณฑ์สุขภาพ”, Facebook: FDAThai, Line@FDAThai และผลิตภัณฑ์ต้องแสดงฉลากเป็นภาษาไทย ระบุข้อความจำเป็นครบถ้วน ได้แก่ ชื่อเครื่องสำอางและชื่อทางการค้า ประเภทหรือชนิดของเครื่องสำอาง ชื่อของสารทุกชนิดที่ใช้เป็นส่วนผสม วิธีใช้ ชื่อและที่ตั้งของผู้ผลิตหรือผู้นำเข้า ปริมาณสุทธิ ครั้งที่ผลิต เดือนปีที่ผลิต เดือนปีที่หมดอายุ คำเตือน และเลขที่ใบรับจดแจ้ง
“ที่สำคัญขอให้ทดสอบการแพ้ก่อนใช้ทุกครั้ง เพราะการแพ้เป็นเรื่องเฉพาะบุคคล โดยการทาเครื่องสำอางในปริมาณเล็กน้อยที่บริเวณท้องแขนหรือหลังใบหู แล้วทิ้งไว้ 24 – 48 ชั่วโมง หากใช้แล้วมีความผิดปกติ เช่น แสบ ร้อน แดง ผื่นคัน ระคายเคือง ต้องหยุดใช้ทันที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด หากอาการไม่ดีขึ้น ให้ไปพบแพทย์และนำผลิตภัณฑ์ที่สงสัยไปด้วย” ภก.วีระชัย กล่าวและว่า
หากพบผลิตภัณฑ์ที่สงสัยว่าผิดกฎหมายแจ้งร้องเรียนได้ที่สายด่วน อย.1556 หรือผ่าน Line@FDAThai Facebook : FDAThai หรือ E-mail : [email protected] ตู้ ปณ. 1556 ปณฝ. กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี 11004 หรือสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) ทั่วประเทศ