กรณีเกิดเหตุเศร้า เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสมุทรสงคราม ได้รับแจ้งเหตุยิงกันภายในสถานีดับเพลิงเทศบาลเมืองสมุทรสงคราม จึงได้ประสาน แพทย์เวร รพ.สมเด็จพระพุทธเลิศหล้า ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน จ.สมุทรสงคราม และเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิสว่างเบญจธรรมสมุทรสงคราม เข้าตรวจสอบในที่เกิดเหตุ
เจ้าหน้าถึงในที่เกิดเหตุเป็นห้องวิทยุสถานีดับเพลิง ตั้งอยู่หน้าเทศบาลเมืองสมุทรสงคราม บนโซฟาในห้องพบร่างนายนันทพงษ์ ต่ายสกุล อายุ 25 ปี พนักงานดับเพลิง สวมเสื้อยืดสีแดง คลุมทับด้วยเสื้อเชิ้ตแขนยาว สวมกางเกงขายาวสีดำ ถูกยิงด้วยปืนขนาด 11 มม. บริเวณกลางศีรษะ กระสุนฝังในเลือดไหลนองพื้น นอนเสียชีวิตสภาพในมือขวายังถือโทรศัพท์เล่นไลน์อยู่ บริเวณประตูบานเลื่อนกระจกพบปลอกกระสุนตกอยู่ 1 ปลอก
ในขณะที่ผู้ก่อเหตุ ทราบชื่อคือ นายเจริญ ขำทวี หรือครูเดี่ยว อายุ 48 ปี หัวหน้าเวรประจำวัน ยืนรอมอบตัวพร้อมอาวุธปืนขนาด 11 มม. จำนวน 1 กระบอก, แม็กกาซีน 1 อัน พร้อมลูกกระสุนขนาด 11 มม. 4 นัด และซองพกปืนแบบผ้าสีดำ 1 ซอง
ต่อมาทางด้าน จ.อ.ชัยวัฒน์ อ้อมนอก หัวหน้าสถานีดับเพลิงเทศบาลเมืองสมุทรสงคราม เปิดเผยว่าทราบจากลูกน้องว่า ก่อนเกิดเหตุในห้องวิทยุ มีเจ้าหน้าที่ 3 นาย คือ นายทินกร พันธ์ทอง ซึ่งเป็นพนักงานวิทยุนั่งทำหน้าที่หัวหน้าออกถนน
มีนายนันทพงษ์ ผู้เสียชีวิตนอนเล่นโทรศัพท์ และเจ้าหน้าที่ดับเพลิงอีก 1 นายนอนหลับ รวม 3 นาย ก่อนที่ผู้ก่อเหตุคือ ครูเดี่ยว เดินเข้ามายิงนายนันทพงษ์ 1 นัด และบอกว่า มึงให้เกียรติกู เดินออกมา ด้านนอกโทรศัพท์แจ้งผู้บังคับบัญชา (นายกเทศมนตรีเมืองสมุทรสงคราม) และเดินไปมอบตัว
จ.อ.ชัยวัฒน์ เล่าต่อว่า ครูเดี่ยว ผู้ก่อเหตุเป็นคนตั้งใจ จริงจังกับการทำงานมาก จนบางครั้งลูกน้องทำไม่ถูกใจ ไม่เคารพผู้บังคับบัญชา หรือมีปากเสียง จนสร้างความไม่พอใจให้ครูเดี่ยว
ส่วนผู้เสียชีวิตเข้ามาทำงานไม่นานนัก ยังไม่ได้รับการฝึกดับเพลิงขั้นต้น ซึ่งกำลังจะส่งไปฝึก เพื่อให้มีระเบียบวินัย ขณะที่ครูเดี่ยวจริงจัง และทำงานแบบเข้มข้น จึงมาฝึกกันเอง ก็อาจจะทำให้ผู้เสียชีวิตซึ่งยังเด็ก ยังไม่มีวินัย ไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง เถียงผู้บังคับบัญชา ก็เป็นได้ ขณะที่นายทินกร พันธ์ทอง พนักงานวิทยุ กล่าวว่า กำลังนั่งปฏิบัติหน้าที่ จู่ๆ ได้ยินเสียงดังปัง นึกว่ายางรถดับเพลิงระเบิด พอหันไปก็เห็นว่าผู้เสียชีวิตถูกยิงแล้ว
จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิด (เวลาในกล้องช้ากว่าเวลาจริงประมาณ 30 นาที) พบว่าผู้ก่อเหตุเดินออกจากห้องมาหยิบปืนในรถปิกอัพที่จอดอยู่ใต้อาคาร ก่อนจะเดินออกมาเข้าไปในห้องไม่นานก็เดินออกมาโทรศัพท์หานายกเทศมนตรี และเดินกลับไปหน้าห้องเกิดเหตุรอมอบตัว
สำหรับ นายเจริญ ขำทวี หรือ ครูเดี่ยว ผู้ก่อเหตุ ทำงานมาเกือบ 20 ปี เป็นคนจริงจัง ขณะที่นายนันทพงษ์ ผู้เสียชีวิต เพิ่งเข้ามาทำงานประมาณ 5 เดือน ซึ่งอาจทำให้ไม่เข้าใจการทำงาน จนเป็นเหตุกระทบกระทั่งเกิดความขัดแย้งบานปลาย
โดยนายนันทพงษ์ ผู้เสียชีวิต เคยโพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ชื่อ ขุนแผนอัมพวา โพสต์รูปถือปืน และผู้เสียชีวิตเคยเป็นนักมวยเก่า จึงอาจเป็นเหตุจูงใจให้ ครูเดี่ยว ก่อเหตุ จากที่มีปัญหากันเรื่องงาน จนมีภาพปืนขู่ ทำให้ครูเดี่ยวทนไม่ไหวตัดสินใจยิงนายนันทพงษ์ ก็เป็นได้ ซึ่งตำรวจได้ส่งศพไปชันสูตรที่ รพ.ตำรวจ และจะสอบสวนหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป
อย่างไรก็ตาม เพื่อนๆ ในโลกออนไลน์ต่างเข้ามาไว้อาลัยให้กับผู้เสียชีวิต พร้อมทั้งตั้งคำถามว่าคนร้ายทำไปทำไม