อดีตนางงามร้อยเวที ร้อง ถูกอดีตแฟนหนุ่มไฮโซ ตระกูลเจ้าสัว ทำร้ายคดีไม่คืบ

12 พฤษภาคม 2567

น้องฝน เพชรปวีณ์ อดีตนางงามร้อยเวที ร้องเพจสายไหมต้องรอด ถูกอดีตแฟนหนุ่มไฮโซ ตระกูลเจ้าสัวระดับประเทศ ทำร้ายร่างกาย

วันที่ 11 พฤษภาคม 2567 ที่ ศูนย์ประสานงานเพจสายไหมต้องรอด เขตสายไหม กทม. นางสาวเพชรปวีณ์ หิรัญกุลชัชวาล อดีต Mrs. Thailand Globe 2022 เข้าร้องเรียนกับสายไหมต้องรอด เพื่อเรียกร้องให้อดีตสามี ที่เป็นทายาทไฮโซตระกูลดังมาจดทะเบียนรับรองบุตร  โดย นางสาวเพชรปวีณ์ เปิดเผยว่า ตนเองคบหากับฝ่ายชายตั้งแต่ปี 2557 จนกระทั่งตั้งท้อง และคลอดลูกชายในปี 2558 ซึ่งในขณะนั้นครอบครัวของฝ่ายชายไม่ยอมรับตนเอง

อดีตนางงามร้อยเวที ร้อง ถูกอดีตแฟนหนุ่มไฮโซ ตระกูลเจ้าสัว ทำร้ายคดีไม่คืบ

 

  ก่อนที่จะขาดการติดต่อกันไปตั้งแต่ปี 2560 ทำให้ตั้งแต่นั้นมา ตนเองก็ดูแลลูกชายเพียงลำพัง กระทั่งปี 2565 ฝ่ายชายติดต่ออยากจะขอเจอลูกชาย ตนเองจึงสอบถามลูกชายว่าอยากเจอพ่อหรือไม่ ลูกชายตอบกลับว่า อยากเจอ ตนเองจึงนัดหมายและพาลูกชายไปพบ 

กระทั่งฝ่ายชายยื่นขอเสนอจะพาลูกชายไปอยู่ด้วยที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยฝ่ายชายมีการเช่าคอนโดให้ตนเอง และลูกชายอยู่ ส่วนฝ่ายชายแวะเวียนมาหาเป็นครั้งคราว ไม่ได้อยู่ฉันสามีภรรยา แต่อยู่กันในฐานะพ่อแม่ ซึ่งในระหว่างที่อยู่ด้วยกัน ก็มีปากเสียงทะเลาะเบาะแว้งบ้าง เพราะฝ่ายชายมักจะมีพฤติกรรมหึงหวง และชอบเช็คโทรศัพท์มือถือของตัวเอง ยอมรับว่า เคยถูกลงไม้ลงมือถึง 5 ครั้ง แต่ภายในห้องไม่มีกล้องวงจรปิด

อดีตนางงามร้อยเวที ร้อง ถูกอดีตแฟนหนุ่มไฮโซ ตระกูลเจ้าสัว ทำร้ายคดีไม่คืบ

 

กระทั่งครั้งสุดท้าย เกิดเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2566 ได้ทะเลาะกันเรื่องที่ตนเองจะให้ฝ่ายชายไปตรวจดีเอ็นเอ เพื่อขอให้มาจดทะเบียนรับรองบุตร แต่ฝ่ายชายพยายามบ่ายเบี่ยงมาโดยตลอด

  จนถึงขั้นลงไม้ลงมือ ตนเองจึงวิ่งลงมาขอความช่วยเหลือจาก รปภ. ถึงที่ป้อม รปภ. หน้าคอนโด เพื่อขอความช่วยเหลือจากคนอื่น แต่ไม่ได้รับการช่วยเหลือ  กระทั่งต้องยืมโทรศัพท์ของของ รปภ. โทรไปแจ้งตำรวจ แต่กว่าตำรวจจะเข้ามาระงับเหตุนั้น ฝ่ายชายก็ไปแล้ว หลังเกิดเหตุได้เข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.แม่ปิง และขณะนี้คดีความอยู่ในชั้นศาลแล้ว และมีการเรียกไกล่เกลี่ยกันไปแล้ว 1 ครั้ง 

อดีตนางงามร้อยเวที ร้อง ถูกอดีตแฟนหนุ่มไฮโซ ตระกูลเจ้าสัว ทำร้ายคดีไม่คืบ

พร้อมย้ำว่า วันนี้ที่ตนเองเข้ามาขอความช่วยเหลือจากสายไหมต้องรอดนั้น ก็เพื่ออยากให้ฝ่ายชายเข้ามาดำเนินการจดทะเบียนรับรองลูกชายเป็นบุตรอย่างถูกต้องตามกฎหมายเท่านั้น เพราะที่ผ่านมาตนเองต้องแบกรับค่าใช้จ่ายของลูกชายอยู่ฝ่ายเดียว  ขณะเดียวกันตนเองก็รู้สึกสงสาร และเป็นห่วงสภาพจิตใจของลูกชาย เนื่องจากเพื่อนที่โรงเรียนลูกชายก็เริ่มถามถึงเรื่องดังกล่าวแล้ว