จากกรณีที่ก่อนหน้านี้ มีรายงานข่าวว่า ลูกเสือโคร่งหลุดออกมาเดินอยู่ในชุมชน ต.บางวัว อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา เมื่อช่วงดึกของวันที่ 16 พ.ค. 67 ทางเจ้าของอ้างว่าเป็นลูกสิงโตผสมเสือโคร่ง หรือ "ไลเกอร์" และมีการเพ้นท์สีให้เหมือนเสือเพื่อเข้าฉากถ่ายทำภาพยนต์นั้น
ต่อมา เจ้าหน้าที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ชุดปฏิบัติการปราบปรามการกระทำผิดด้านสัตว์ป่าและพืชป่า (ชุดเหยี่ยวดง) เจ้าหน้าที่สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 2 ศรีราชา ร่วมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ได้ตรวจยึดเสือโคร่งจากผู้ที่ระบุว่าเป็นเจ้าของคือ นายโยธิน (ขอสงวนนามสกุล) ซึ่งเป็นตัวเดียวกับที่หลุดออกมาในชุมชนและไม่ใช่ "ไลเกอร์" แต่อย่างใด
จากการตรวจสอบลูกเสือโคร่งตัวดังกล่าว ไม่มีเอกสารหลักฐานการครอบครองของทางราชการและไม่มีเครื่องหมายประจำตัวสัตว์ป่า (เลขไมโครชิป) ทางเจ้าหน้าที่สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 2 (ศรีราชา) จึงได้ตรวจยึดสัตว์ป่าของกลาง
พร้อมทั้งแจ้งความดำเนินคดีกับนายโยธิน ผู้ครอบครองลูกเสือโคร่ง มีความผิดตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่าพ.ศ. 2562 มาตรา 15 ฐานปล่อยเป็นอิสระซึ่งสัตว์ป่าคุ้มครอง (ลูกเสือโคร่ง) พ้นจากการดูแลของตน มาตรา 17 ฐานครอบครองสัตว์ป่าคุ้มครอง (ลูกเสือโคร่ง)
โดยไม่ได้รับอนุญาต มาตรา 19 วรรคหนึ่ง ฐานครอบครองสัตว์ป่าคุ้มครอง(ลูกสิงโต)โดยไม่ได้รับอนุญาต มาตรา 19 วรรคสอง ฐานไม่ได้ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์วิธีการและเงื่อนไขแจ้งการรับแจ้งตามระเบียบที่อธิบดีกำหนด นำส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรบางคล้า จ.ฉะเชิงเทราเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมทั้งขออนุมัติพนักงานสอบสวน นำลูกเสือโคร่งส่งมอบให้ศูนย์พัฒนาการจัดการสัตว์ป่าบึงฉวาก (สวนสัตว์บึงฉวาก) ต่อไป
คืบหน้าล่าสุด พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ตั้งชื่อให้กับลูกเสือโคร่งตัวดังกล่าวว่าน้อง "นีน่า"
ด้านนายอนันต์ ศรีผุดผ่อง หัวหน้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่าบึงฉวาก และศูนย์พัฒนาการจัดการสัตวป่าบึงฉวาก กล่าวว่า ลูกเสือโคร่ง ซึ่งเป็นของกลาง คดีอาญาที่ 244/2567 ยึดของกลางไว้ลำดับที่ 63/2567 นำส่งมอบโดยหัวหน้าศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่าที่ 2 (กระบกคู่ ) และเจ้าหน้าที่สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 2 (ศรีราชา) เมื่อวันที่ 18 พ.ค. 2567 เวลา 05.00 น.ณ ศูนย์พัฒนาการจัดการสัตว์ป่าบึงฉวาก จ.สุพรรณบุรี
สำหรับลูกเสือโคร่งตัวดังกล่าว มีอายุประมาณ 3-4 เดือน เพศเมีย น้ำหนัก 20.5 กิโลกรัม ส่วนอาหารลูกเสือโคร่ง เป็นนม KMR ชนิดผง (ชง) ภายใน 1 วัน แบ่งให้กินนมทุก 3 ชม./ครั้ง ครั้งละ 500 มิลลิลิตร พร้อมด้วยเนื้อวัวสับหยาบ ให้กินวันละ 2 มื้อ ครั้งละ 500 มิลลิกรัม นอกจากนี้ยังมีการเสริมแคลเซียม สำหรับสุนัขแบบเม็ด
พฤติกรรมโดยทั่วไปที่ตรวจเช้าวันที่ 18 พฤษภาคม 2567 ลูกเสือโคร่งมีความสนใจสิ่งแวดล้อมดี มีพฤติกรรมค่อนข้างติดคน มีความอยากใกล้ชิดคนตลอดเวลา ส่วนการกินเนื้อวัว และนม ปกติ ปัสสาวะปกติ ยังไม่ถ่ายอุจจาระ
กรมอุทยานแห่งชาติฯ ยังเตรียมเรียกค่าดูแลลูกเสือโคร่งจากผู้ระบุว่าเป็นเจ้าของเสือ โดยกรมอุทยานแห่งชาติฯต้องดูแลเสือโคร่งมากกว่า 10 ปี เป็นเงิน 1,394,000 บาท ซึ่งเป็นไปตามระเบียบกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ว่าด้วยการดำเนินการแก่สัตว์ป่า ซากสัตว์ป่า หรือผลิตภัณฑ์จากซากสัตว์ป่าและค่าใช้จ่ายในการดูแลสัตว์ป่า พ.ศ.2565