กรณีสืบเนื่องจาก ความคืบหน้าคดี "การเสียชีวิตของ เสี่ยต้น" พิชิต กลีบจินดา อายุ 45 ปี หรือ เจ้าของธุรกิจสปาและนวดแผนไทยเสียชีวิต เมื่อวันที่ 16 เมษายน 2567 ที่ผ่านมา หลังกลับไปหาภรรยาเสี่ยต้น ที่บ้านในจังหวัดมหาสารคาม ก่อนที่ทางน้องสาวของเสี่ยต้น จะเข้าปรึกษาขอความช่วยเหลือกับทางทนายเดชา กิตติวิทยานันท์
โดยน้องสาวของเสี่ยต้นได้ "ตั้งข้อสงสัยการตาย เสี่ยต้น" พี่ชาย มีลักษณะที่เป็นเงื่อนงำเนื่องจากสภาพศพที่ดำคล้ำผิดปกติ อยากขอให้ทางตำรวจรื้อฟื้นคดีการตายของตัวพี่ชายและเร่งหาตัวคนร้ายที่ขี่ จยย. ตามประกบยิงรถรถตู้ของพี่ชายเมื่อวันที่ 8 เมษายน ที่ผ่านมาด้วยเนื่องจากคาดว่าน่าจะมีความเกี่ยวข้องกัน
วันนี้ (23 พ.ค.) เวลา 11.00 น. คืบหน้าล่าสุดคดีเสี่ยต้น ทางด้าน น.ส.ณัฐปภัษร์ ธนภัคนันท์หิรัญ หรือ "เจ น้องสาวเสี่ยต้น" ได้เดินทางมายัง สน.วังทองหลาง เพื่อมารับเอาโทรศัพท์มือถือของคุณแม่ที่ทางเจ้าหน้าที่ได้ขอนำไปดูดเอาข้อมูลสำหรับใช้ในการตรวจสอบคืน
ทางด้าน น.ส.ณัฐปภัษร์ กล่าวว่า ขณะนี้ข้อมูลบางส่วนยังไม่สามารถที่จะเปิดเผยออกมาได้ต้องรอผ่านกระบวนการและการสรุปอีกทีจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก่อน ทั้งนี้ในส่วนของภาพจากกล้องวงจรปิดในคืนเกิดเหตุที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการตรวจสอบก็มีแนวโน้มไปในทางที่ดีว่าจะจับตัวคนก่อเหตุได้ในไม่ช้า
จากการตรวจสอบภาพก็พบว่า คนก่อเหตุเป็นบุคคลที่มีลักษณะตรงกับบุคคลที่ตนได้ตั้งข้อสงสัยเอาไว้และภาพที่ได้มาก็ค่อนข้างที่จะเห็นหน้าของผู้ก่อเหตุชัด อย่างไรก็ตามอยากให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำหน้าที่อย่างถึงที่สุดก่อน ตนไม่สามารถชี้แจงได้มากกว่านี้ ทั้งนี้ในส่วนของมูลเหตุในการก่อเหตุ คาดว่ามาจากหลายๆ อย่างประกอบกันไม่ใช่ประเด็นใดประเด็นหนึ่ง
อีกทั้ง น้องสาวเสี่ยต้น ยังกล่าวต่อว่า ตอนนี้มองว่าสถานการณ์เป็นไปในทางที่ดีขึ้นและตนเชื่อมั่นในกระบวนการทำงานของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจที่สามารถดำเนินการทางคดีได้อย่างรวดเร็ว ในส่วนของทางคุณแม่ ตอนนี้สภาพจิตใจค่อนข้างแย่ โดยตนได้พาท่านมาพักอยู่ด้วยกันที่คอนโดด้วย หากต้องการติดต่อสอบถามข้อมูลอะไร อยากให้ติดต่อผ่านทางตนเท่านั้น