เรียกได้ว่ากลายเป็นประเด็นที่ได้รับความสนใจอย่างมากและเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง กทม. จัดซื้อเครื่องออกกำลังกาย 2 แห่ง รวมเป็นเงินเกือบ 10 ล้านบาท มีการเปรียบเทียบราคากับเครื่องออกกำลังกายรุ่นเดียวกันในท้องตลาด พบว่าราคาแพงกว่าหลายเท่าตัว หลังจากเพจเฟซบุ๊ก ชมรม STRONGต้านทุจริตประเทศไทย ได้ออกมาโพสต์ระบุข้อความว่า
กทม จัดซื้อเครื่องออกกำลังกาย เครื่องละ 4 แสน
เครือข่าย STRONG ต้านทุจริตประเทศไทยพบเห็นความผิดปกติในการจัดซื้อเครื่องออกกำลังกาย ส่อแพงจริงภายใน ศูนย์กีฬาวารีภิรมย์ และ ศูนย์กีฬาวชิรเบญจทัศ - Wachirabenchathat รวมกัน 2 ที่เกือบ 10 ล้านบาท
โดยแบ่งเป็นที่ศูนย์วารีภิรมย์ 4,999,990 บาท จัดซื้อเครื่องออกกำลังกาย 11 รายการ ดังนี้
1.อุปกรณ์ลู่วิ่งไฟฟ้า 1 เครื่อง 759,000 บาท
2.จักรยานนั่งเอนปั่นแบบมีผนักพิง 1 เครื่อง 483,000 บาท
3.จักรยานนั่งปั่นแบบนั่งตรง 2 เครื่อง เครื่องละ 451,000 บาท
4.อุปกรณ์บริหารกล้ามเนื้อต้นแขนด้านหน้า 1 เครื่อง 466,000 บาท
5.อุปกรณ์บริหารกล้ามเนื้อขาด้านหน้าและขาด้านหลัง 1 เครื่อง 477,500 บาท
6.อุปกรณ์บริหารกล้ามเนื้อห้วงไหล่ อก และหลังแขน 1 เครื่อง 483,000 บาท
7.อุปกรณ์บริหารกล้ามเนื้ออเนกประสงค์ 1 เครื่อง 652,000 บาท
8.ชุดดัมเบลพร้อมชั้นวาง 1 เครื่อง 276,000 บาท
9.อุปกรณ์บาร์โหนฝึกกล้ามเนื้ออเนกประสงค์ 1 เครื่อง 302,490 บาท
10.เก้าอี้ฝึกกล้ามเนื้อหน้าท้อง 1 เครื่อง 103,000 บาท
11.เก้าอี้ฝึกตัมเบลดัมเบลแบบปรับระดับได้ 1 เครื่อง 96,000 บาท
และอีกที่คือ ศูนย์วชิรเบญจทัศ 4,998,800 บาท 11 รายการ ราคาสูงผิดปกติเช่นกัน
รายการเครื่องออกกำลังกายต่างๆที่ กทม.จัดซื้อ เมื่อเทียบกับราคาตลาดแล้ว ราคาช่างแตกต่างกันสูงมาก เช่น เก้าอี้ฝึกดัมเบลแบบปรับระดับได้ ราคาตลาดเกรดดี ไม่เกิน 3 หมื่นบาท แต่ กทม.จัดซื้อ 96,000 บาท งานนี้ส่วนต่างเพียบ..
เมื่อลองขุดลึกๆลงไปอีกพบว่า เฉพาะ ปี 2567 กทม. จัดซื้อครุภัณฑ์เครื่องออกกำลังกาย กว่า 9 โครงการ ด้วยงบประมาณกว่า 77.73 ล้านบาท ซึ่งการจัดซื้อจัดจ้างที่ส่อแพงเกินจริงเหล่านี้ ทำให้รัฐสูญเสียเงินไปอย่างสิ้นเปลือง ต้องตรวจแบบเข้มๆอย่างเร่งด่วน
ที่มาเพจเฟซบุ๊ก ชมรมSTRONGต้านทุจริตประเทศไทย