กรณีสืบเนื่องจาก แซน ผู้ต้องหาคดีฆาตกรรมแฟนสาวและตัดข้อมือ ความคืบหน้าล่าสุดเวลาประมาณ 9.20 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการควบคุมตัวนายแซน ผู้ต้องหา ขึ้นรถผู้ต้องขังเพื่อส่งฝากขังที่ศาล จ.ปทุมธานี โดยในระหว่างการควบคุมตัวนั้น นายแซนยังคงมีท่าทีที่ไม่มีสติ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องช่วยกันประคองหามปีกนายแซนเดินไปยังรถผู้ต้องขัง
โดยท่าทีของนายแซนหลับตาสะลึมสะลือตลอดเวลาและไม่พูดตลอดคำถามใดๆ กับสื่อมวลชนที่พยายามสอบถามถึงข้อเท็จจริงและสอบถามว่า สำนึกในการกระทำที่ทำลงไปหรือไม่ บางจังหวะผู้สื่อข่าวสังเกตเห็นว่า นายแซนเหมือนลืมตาขึ้นมา คล้ายว่าตอบสนองกับสิ่งที่นักข่าวถาม แต่ก็ไม่ยอมพูดอะไร จนกระทั่งคุมตัวขึ้นรถผู้ต้องขัง
โดยในช่วงเช้าที่ผ่านมา ทางพนักงานสอบสวน สภ.ปากคลองรังสิต ได้ควบคุมตัวนายแซนส่งฝากขังผลัดแรกที่ศาลจังหวัดปทุมธานี โดยนายแซนถูกดำเนินคดีใน 4 ข้อหาคือ "ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา , ซ่อนเร้นอำพรางศพ เคลื่อนย้ายทำลายศพ และกระทำการใดๆ แก่สภาพศพก่อนการชันสูตรพลิกศพ" ซึ่งทางพนักงานสอบสวนยื่นคัดค้านการประกันตัวท้ายคำร้องขอฝากขัง เนื่องจากเป็นคดีที่มีอัตราโทษสูง เกรงว่าหากผู้ต้องหาได้รับการประกันตัวอาจจะหลบหนี ,ยุ่งเหยิงพยานหลักฐานหรืออาจจะกระทำอัตวินิบาตกรรมได้ จึงสมควรที่จะได้รับการฝากขังเพื่ออยู่ในความดูแลของเจ้าหน้าที่อย่างใกล้ชิด
ตลอดการคุมขังทั้งคืนที่ผ่านมา ได้จัดกำลังตำรวจเฝ้าเวรยามผลัดเวรกันตลอดทั้งคืนบริเวณหน้าห้องผู้ต้องขัง เพื่อเฝ้าจับตาพฤติกรรมของนายแซน และเฝ้าระวังป้องกันมิให้นายแซนทำอันตรายใดๆ แก่ตัวตนเอง โดยตำรวจสิบเวรให้ข้อมูลว่า ตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา ตัวผู้ต้องหายังสามารถนอนหลับได้ตามปกติ ไม่แสดงอาการท่าทีเครียดหรือวิตกกังวลแต่อย่างใด ส่วนการสอบปากคำตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา ปรากฎว่า ผู้ต้องหายอมที่จะให้การกับพนักงานสอบสวนต่อหน้าทนายความ โดยมีผู้ปกครองร่วมอยู่ด้วย ซึ่งมีรายงานข่าวว่า ขณะสอบปากคำ นายแซนยังคงมีอาการสะลึมสะลือตลอดเวลา
อีกทั้ง ในช่วงเช้าวันนี้ เวลา 8:00 น. ครอบครัวของนายแซน ได้แก่ พ่อ แม่ พี่ชายของนายแซน และแฟนพี่ชายของนายแซน ได้เดินทางนำของมาเยี่ยมนายแซน ประกอบไปด้วย เสื้อยืดสีเทา กางเกงขาสั้นสีดำ กางเกงใน น้ำยาบ้วนปาก ทิชชู่เปียก และผ้าชุบน้ำสำหรับเช็ดตัว โดยครอบครัวของผู้ต้องหาไม่ยินยอมที่จะให้สัมภาษณ์ใด ๆ หรือให้ข้อมูลใด ๆ แก่สื่อมวลชน
ผู้สื่อข่าวได้สังเกตเห็นว่า มีบางจังหวะขณะที่ครอบครัวนายแซนเข้าเยี่ยมในห้องผู้ต้องขัง แม่ของนายแซนถึงขั้นเข่าทรุดนั่งร้องไห้ จนพ่อนายแซนต้องช่วยกอดปลอบระหว่างการเยี่ยมพูดคุยกับนายแซนในห้องผู้ต้องขัง ทั้งนี้จากการสังเกตภายในห้องผู้ต้องขัง พบว่า นายแซนมีสติตื่นจากการนอนและรับประทานอาหารได้ตามปกติ