อุทาหรณ์ หนุ่ม "โดนงูกัด" แต่หมอบอกไม่มีพิษ ปล่อยกลับบ้าน หวิดถูกตัดขาทิ้ง

14 มิถุนายน 2567

หนุ่มถูกงูกะปะกัด แต่หมอบอกงูไม่มีพิษ ปล่อยกลับบ้าน หวิดถูกตัดขาทิ้ง เนื่องจากพิษของงูกำลังทำลายระบบเลือด ทำให้เกิดอันตรายกับชีวิตได้

อุทาหรณ์ กรณีหนุ่มรายหนึ่งผู้ใช้เฟซบุ๊ก หลังเจ้าตัว "โดนงูกัด" เมื่อวันที่ 10 มิ.ย. 2567 ที่ผ่านมา โดยเขาได้รีบไปหาหมอและเข้ารักษาตัวที่ รพ.ประจำอำเภอ แต่หมอได้ทำการรักษาอาการเบื้องต้น เมื่อสอบถามแพทย์ว่างูตัวที่กัดคือสายพันธ์อะไร มีพิษหรือไม่ ก็ไม่สามารถให้คำตอบกลับมาได้  

 

อุทาหรณ์ หนุ่ม โดนกัด แต่หมอบอกงูไม่มีพิษ ปล่อยกลับบ้าน หวิดถูกตัดขาทิ้ง

ผู้บาดเจ็บจึงหันไปถามกับทางพยาบาลแทน โดยเธอยืนยันว่าเป็นงูไม่มีพิษ หมอจึงจ่ายยาพาราและยาฆ่าเชื้อให้มารักษาตัวที่บ้าน ทำเอาหนุ่มคนดังกล่าวรู้สึกงงขึ้นมา เพราะรู้สึกว่าการถูกงูกัดนั้นควรจะได้รับการรักษาที่ดีกว่านี้ 

ก่อนที่ต่อมาในเวลา 02.30 น. เขารู้สึกกังวลเกี่ยวกับแผลที่ถูกงูกัด กลัวว่าพิษงูอาจทำให้เกิดอันตรายได้หากปล่อยไว้นานกว่านี้ จึงค้นหาว่างูที่กัดตนนั้นมีพิษร้ายแรงหรือไม่ และต้องตกใจเมื่อพบว่างูตัวดังกล่าวเป็น "งูกะปะ" มีพิษทำลายเลือดโดยตรง ทำให้เขาตัดสินใจใช้เชือกรัดบริเวณเหนือแผลที่ถูกงูกัด ขับรถยนต์ออกมาท่ามกลางดึกไปรักษาตัวอีกครั้งที่โรงพยาบาลประจำจังหวัด 


เมื่อมาถึงโรงพยาบาล หมอรีบทำการรักษาโดยทันที และกล่าวว่าหากมาช้ากว่านี้ อาจต้องตัดขาได้ เนื่องจากพิษของงูกำลังทำลายระบบเลือด ทำให้เกิดอันตรายกับชีวิตได้

   โดยหนุ่มเจ้าของโพสต์รู้สึกโชคดีที่รอดชีวิตมาได้ และอยากให้โรงพยาบาลในอำเภอให้ความสำคัญกับการรักษาผู้ป่วยให้ดีกว่านี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีที่ถูกสัตว์มีพิษกัด ซึ่งถ้าเขาไม่ตัดสินใจไปที่โรงพยาบาลประจำจังหวัด ก็ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เพราะงูกะปะถือว่ามีพิษ ทำลายต่อระบบเลือด ทำให้เลือดออกมากผิดปกติ