จากกรณี "เรือน้ำมันเถื่อน 3 ลำ" ซึ่งได้นำเรือกลับมาเทียบท่า ที่ท่าเทียบกองกับกำการ 7 กองบังคับการตำรวจน้ำ จ.สงขลา ในส่วนของน้ำมันเถื่อน3แสนลิตรของกลาง ได้ถูกขายไปหมดแล้วที่กัมพูชา ล่าสุด 19 มิ.ย.67 พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รองผู้บังคับการกองปราบปราม เปิดเผยความคืบหน้าหลังคุมตัว ลูกเรือนํ้ามันเถื่อน 8 ราย เข้าสอบปากคําที่กองบังคับการปราบปรามเมื่อกลางดึกคืนที่ผ่านมา
ผู้ต้องหาหลายคนให้การที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี เนื่องจากจับกุมตัวได้พร้อมเรือของกลาง ซึ่งเขาต้องยอมรับในข้อเท็จจริง ซึ่งจะปฏิเสธว่าไม่รู้ ไม่เห็น และไม่เกี่ยวข้องนั้นคงเป็นไปได้ยาก ส่วนจะโยงไปถึงเสี่ย จ. หรือไม่นั้น ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ แต่คาดว่าไม่เกินสัปดาห์หน้าจะมีความกระจ่างในหลายเรื่อง
รวมถึงจะมีการออกหมายจับตัวการใหญ่ในคดีนี้ด้วยเนื่องจากมีพยานหลักฐานที่เชื่อมโยงถึง และยืนยันว่ามีมากกว่า 1 คนแน่นอน เพราะฝ่ายสืบสวนได้ข้อมูลที่พบว่ามีหลายคนที่เกี่ยวข้องรวมถึงข้อเท็จจริงบางส่วนบงชี้ว่าคดีนี้มีการวางแผนล่วงหน้า
ในส่วนกรณีที่มีบุคคลใกล้ชิด เสี่ย จ. เปิดเผยว่ามีตํารวจเรียกรับส่วย อ้างเป็น ผู้กํากับ น. ในพื้นที่นั้น พ.ต.อ.เอนก ระบุว่า เรื่องนี้คงต้องสอบถามกับทางผู้บังคับการตํารวจนํ้า เนื่องจากมีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ในส่วนของกองปราบฯมีหน้าที่รับผิดชอบ 2 เรื่อง คือการสืบสวนในคดีเดิมเกี่ยวกับการจับกุมเรือทั้ง 5 ลํา และเรื่องเรือหายรวมถึงการสืบสวนขยายผลเพิ่ม
สําหรับลูกเรืออีก 7 คน ที่ยังหลบหนีอยู่นั้น ตํารวจมีข้อมูลแล้วว่า หลังจากที่มีการนํานํ้ามันไปส่งขายให้กับเรือลําหนึ่ง มีลูกเรือบางส่วนได้ขึ้นเรือลํานั้นไป อย่างไรก็ตามหากหนีไปยังประเทศเพื่อนบ้านจะมีการออกหมายแดงของตํารวจสากลเพื่อติดตามตัวกลับมาดําเนินคดีต่อไป