แม่ค้าโปรไฟล์ดีคนมีสี ทำพิษคนแห่สั่งซื้อ "ลาบูบู้" เสียหายรวมเกือบล้าน

จากกรณีวันนี้ 24 มิ.ย.67 นางสาวกัลย์ลภัส อาชีพเซลล์ขายยา เป็นตัวแทนผู้เสียหาย โดยเจ้าตัวสั่งซื้อตุ๊กตาดัง ลาบูบู้ ผ่านทางเฟซบุ๊ค แต่กับไม่ได้รับของ พร้อมกับผู้เสียหายรวม 70 กว่าราย มูลค่าความเสียหายมูลค่ากว่า 8 แสนบาท ล่าสุดได้เดินทางเข้าร้องเรียนนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด 

โดยทางด้านนางสาวกัลย์ลภัส ผู้เสียหายเล่าว่า ตนได้ทำการสั่งซื้อ ลาบูบู้ จากหญิงสาวโปรไฟล์ดีคนหนึ่งผ่านทางเฟซบุ๊ค ซึ่งโปรไฟล์เป็นถึงจ่าทหารเรือ แถมยังมีแฟนหนุ่มเป็นถึงตำรวจ โดยเธอมีการโพสต์ขายลาบูบู้ ผ่านทางกลุ่มค้าขายของเล่นตุ๊กตาลาบูบู้ ซึ่งตั้งราคาขายถูกกว่าเจ้าอื่นๆ ผู้ก่อเหตุใช้โปรไฟล์และเฟซบุ๊คจริงในการโพสต์ขาย และหน้าโปรไฟล์ของผู้ก่อเหตุมีการรีวิวจากลูกค้าจำนวนมากว่าได้รับของจริง และมีคนสั่งซื้อสินค้าเป็นจำนวนมาก ประกอบกับพี่สาวของตัวเองเคยซื้อลาบูบู้กับเจ้านี้มาแล้วด้วย 

จึงเชื่อใจและได้ทำการสั่งซื้อลาบูบู้เป็นจำนวน 3 ตัว ซื้อในราคาตัวละ 990 บาท ค่าส่ง 60 เป็นเงิน 3,030 บาท ทำการสั่งซื้อไปเมื่อวันที่ 10 มิ.ย. ทางแม่ค้าแจ้งว่าสินค้าจะพร้อมส่งในวันที่ 13 มิ.ย. แต่เมื่อถึงวันที่ 13 มิ.ย. ทางผู้ก่อเหตุได้แจ้งกับทางถูกค้า ว่าตนเองติดธุระราชการ จึงขอเลื่อนไปวันที่ 17 จนกระทั่งเย็นวันที่ 17 มิ.ย. ทางผู้ก่อเหตุได้ออกมารับสารภาพว่าไม่มีของจะส่งให้

ทางเราจึงได้ทำการขอเงินคืน ผ่านไปประมาณ 2 ถึง 3 ชม. ทางผู้ก่อเหตุได้โทรมาขอเจรจาว่าตอนนี้ตนเองคงไม่มีเงินคืนอยากจะขอเวลาสักหน่อยเพื่อหาเงินมาใช้คืนให้กับลูกค้า ก่อนจะเงียบหายไป  ทางเราจึงได้เดินทางไปลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สน.สุทธิสาร ก่อนจะมีการแจ้งไปยังต้นสังกัดของหญิงสาวผู้ก่อเหตุดังกล่าว 

และ ทางเราจึงได้พยามรวบรวมผู้เสียหายในครั้งนี้โดยมีผู้เสียหายกว่า 70 ราย เพื่อทำการปรึกษาพูดคุยและ รวมความเสียหายได้ กว่า 8 แสนบาท
 

ต่อมา เมื่อวันที่ 20 มิ.ย.67 ผู้ก่อเหตุได้มีการเคลื่อนไหวผ่านทางเฟซบุ๊คของตัวเอง โดยทำการปิดกั้นคอมเมนต์ เพื่อไม่ให้ใครเข้ามาคอมเมนต์ได้ และโพสต์ข้อความลงบนเฟซบุ๊คส่วนตัว ว่าตนเองไม่ได้โกงเพียงแต่ยังรอของอยู่เท่านั้น ส่วนใครต้องการคืนเงินให้ติดต่อมา แล้วจะมีการคืนเงินให้ โดยได้มีการโพสต์เหมือนกับสลิปการคืนเงินให้กับลูกค้าบางส่วนให้ดูมีความน่าเชื่อถือ

แต่ความเป็นจริงในจำนวนผู้เสียหาย 70 กว่ารายนั้น ได้รับการคืนเงินเพียงแค่ท่านเดียว เมื่อวันที่ 23 ที่ผ่านมา แถมได้เงินคืนเพียงครึ่งจำนวนเป็นเงิน 1000 บาท จากยอดสั่งซื้อ 2000 บาท ของผู้เสียหายท่านนั้น 

ส่วนที่ผู้เสียท่านนี้ได้เงินคืนมานั้นเนื่องจากลูกป่วย จึงได้โทรไปอ้อนวอนผู้ก่อเหตุเลยได้รับโอนคืนมา 1,000 บาทนั่นเอง 

วันนี้จึงขอเป็นตัวแทนผู้เสียหายมาขอความช่วยเหลือ ต่อนายเอกภพ เหลืองเสริฐ เพื่อให้ช่วยเร่งรัดนำตัวผู้ก่อเหตุมารับผิดชอบต่อสิ่งที่เกิดขึ้น

ด้านนายนิรันดร์ เกแง้ว ผู้ร่วมก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอดกล่าวว่า เคสนี้เดี๋ยวจะรวบรวมผู้เสียหายเพื่อนำเข้าแจ้งความต่อกองปราบปราม ให้ช่วยเร่งรัดคดีโดยเร็ว และในส่วนของผู้ก่อเหตุที่รับราชการทหารนั้น ทางเพจจะส่งเรื่องเข้าไปสอบถามยังต้นสังกัดของผู้ก่อเหตุ เพื่อให้ช่วยดำเนินการทางกฏเกณของหน่วยงานต่อไป