วันที่ 25 มิ.ย.2567 กรณี ผู้อำนวยการโรงเรียนชื่อดังในอำเภอหาดใหญ่ ร่วมกับพวกทุจริตเงินค่าอาหารกลางวันนักเรียน มูลค่าความเสียหายกว่า 2 ล้านบาท โดยล่าสุด พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. เป็นประธานแถลงข่าวตํารวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย บก.ปปป. ร่วม บก.ป.ดำเนินคดี "การทุจริตอาหารกลางวัน โรงเรียนดังที่หาดใหญ่" ที่ห้องประชุม ชั้น 2 ตึกกองปราบ (อาคารประชาอารักษ์) เมื่อเวลา14.00 น.
โดยตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป.,พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป.,พ.ต.อ.ขวัญชาติ วงศ์ขจไพบูลย์ รอง ผบก.ปปป.,พ.ต.อ.อนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป, พ.ต.อ.สถาปนา จุณณวัตต์ ผกก.6 บก.ปปป., พ.ต.อ.พงศ์ปณต ชูแก้ว ผกก.6 บก.ป. แจ้งข้อกล่าวหาแก่ผู้ต้องหา
1. นายพิพัตน์ฯ อายุ 56 ปี ผู้อำนวยการ/ผู้จัดการโรงเรียนฯ
2. นางอุบลฯ อายุ 55 ปี รองผู้อำนวยการโรงเรียนฯ
3. นางอัญชลีฯ อายุ 64 ปี รองผู้อำนวยการโรงเรียนฯ
4. นางถิระนันท์ฯ อายุ 65 ปี หัวหน้าฝ่ายบริหารงานงบประมาณ
กล่าวหาว่า "ร่วมกันยักยอก และ ร่วมกันปลอมและใช้เอกสารสิทธิปลอม " (ป.อาญา ม.352,265,83) พฤติการณ์ ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดยกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ร่วมกับ กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ทำการสืบสวน กรณีเมื่อปี 2566 นายสุกรี แวมูชอ ผู้อำนวยการสำนักงานการศึกษาเอกชนจังหวัดสงขลา มาร้องทุกข์กล่าวโทษมอบคดีต่อพนักงานสอบสวนให้ดำเนินคดีกับ นายพิพัตน์ฯ (ผู้ต้องหาที่ 1) ตำแหน่งผู้จัดการ/ผู้อำนวยการฯ, นางอุบลฯ (ผู้ต้องหาที่ 2) ตำแหน่ง รองผู้อำนวยการฯ ฝ่ายงบประมาณ, นางอัญชลีฯ (ผู้ต้องหาที่ 3) ตำแหน่งรองผู้อำนวยการฯ ฝ่ายบริหารงานบุคคล และนางถิระนันท์ฯ (ผู้ต้องหาที่ 4) ตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายบริหารงานงบประมาณ ซึ่งเป็นบุคคลากรของโรงเรียนฯ
ว่าได้ร่วมกันทุจริตเงินค่าอาหารกลางวันของโรงเรียน และมีการยื่นคำร้องขอรับเงินอุดหนุนโครงการเรียนฟรี 15 ปี ในส่วนของค่าอุปกรณ์การเรียน และค่าเครื่องแบบนักเรียนจากสำนักงานการศึกษาเอกชนจังหวัดสงขลา แต่ไม่นำเงินมามอบให้กับผู้ปกครอง
โดยมีการทุจริตโดยการนำใบสำคัญรับเงินต่างๆ ให้กับครูประจำชั้นเพื่อนำไปให้ผู้ปกครองลงลายมือชื่อการกรอกข้อความใดในใบอุดหนุนการศึกษา และขอเก็บสำเนาบัตรประชาชนผู้ปกครองไว้ เกี่ยวกับการเบิกจ่ายเงินอุดหนุน และให้ครูปลอมเอกสารใบเสร็จรับเงินซึ่งเอกสารดังกล่าวทางโรงเรียนหลักฐานการใช้จ่ายเงินอุดหนุนต่อคณะกรรมการบริหารโรงเรียนเป็นเหตุให้ผู้ปกครองเสียสิทธิในการรับเงินอุดหนุนดังกล่าว รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 1,226,910 บาท
และส่วนของเงินอุดหนุนโครงการอาหารกลางวัน มีการว่าจ้างให้ลูกจ้างเซ็นชื่อลอยไว้ในเอกสารใบสำคัญแทนโดยไม่มีการระบุข้อความ และจำนวนเงิน จากนั้นมีการกรอกข้อความจำนวนเงินเกินไปจากที่ จ่ายให้แก่ลูกจ้างจริง เป็นเหตุให้นักเรียนได้รับคุณค่าทางโภชนาการไม่เพียงพอ รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 968,286 บาท รวมความเสียหายที่เกิดขึ้น 2,195,196 บาท เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้รวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมดจนนำมาสู่การแจ้งข้อกล่าวหาแก่ผู้ต้องหาทั้ง 4 รายเบื้องต้น สอบถามปากคำผู้ต้องหาทุกรายยังให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา