"บิ๊กโจ๊ก" ลุยแหลกฟ้อง "นายพล ต." อดีตตำรวจ ฐานรู้ดี รู้มาก แต่ไม่รู้จริง

27 มิถุนายน 2567

งานเข้า นายพล ต." อดีตตำรวจ "บิ๊กโจ๊ก" พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล ประกาศลุยฟ้องดำเนินคดี ฐานเป็นผู้รู้ดี รู้มาก แต่ไม่รู้จริง

จากกรณี มติ ก.ตร. 12 ต่อ 0 เห็นชอบให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ออกจากราชการไว้ก่อน เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2567 ในการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ครั้งที่ 5/2567 โดยมีนายกรัฐมนตรี นายเศรษฐา ทวีสิน เป็นประธาน

 

บิ๊กโจ๊ก ลุยแหลกฟ้อง นายพล ต. อดีตตำรวจ ฐานรู้ดี รู้มาก แต่ไม่รู้จริง

ต่อมา พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เปิดใจว่า ในสัปดาห์หน้าตนเองจะ ดำเนินการยื่นฟ้อง นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธาน ก.ตร. และคณะกรรมการ ก.ตร. รวมทั้งสิ้น 12 คน ซึ่งเป็นบุคคลที่ร่วมประชุมและรับรองวาระการประชุมเกี่ยวกับคำสั่งให้ตนออกจากราชการไว้ก่อน โดยตนมองว่ามติดังกล่าวไม่ผิดจากที่ตนเองคาดการณ์ไว้

  บิ๊กโจ๊ก ลุยแหลกฟ้อง นายพล ต. อดีตตำรวจ ฐานรู้ดี รู้มาก แต่ไม่รู้จริง

เพราะทุกคนต้องเข้าใจว่าบุคคลเหล่านี้เป็นตำรวจใช่หรือไม่ พร้อมย้ำคำพูดนายกฯ ที่ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่าจะให้ความเป็นธรรมกับตัวเองนั้น เป็นเพียงวาทกรรม ที่ดูดีสวยหรูแต่ไม่จริงใจทั้งที่ตัวนายกรัฐมนตรีเองได้ปรึกษาหารือกับกฏษฎีกาจนทราบแล้วว่าคำสั่งดังกล่าวไม่ชอบด้วยกฎหมายแต่กลับไม่แก้ไขยกเลิกคำสั่งดังกล่าว อีกทั้งยังเข้าประชุมรับรองมติ ก.ตร.เมื่อวานที่ผ่านมาอีก ซึ่งส่วนตัวตนก็ไม่ได้มีปัญหากับนายเศรษฐา แต่จำเป็นที่จะต้องปกป้องสิทธิ์ ในการยื่นฟ้องนายกรัฐมนตรีกับ ก.ตร. ชุดดังกล่าว

  อยากให้สังคมเห็นใจตัวเองบ้าง เพราะความเสียหายในกรณีนี้ เกิดขึ้นกับตนเพียงคนเดียวและการฟ้องร้องดำเนินคดีกับบุคคลเหล่านี้ก็เพราะตนไม่ได้รับความเป็นธรรม 

ตนเชื่อว่าตอนนี้ความหวังที่จะได้รับความเป็นธรรมอยู่ที่ คณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจ หรือ ก.พ.ค.ตร. ซึ่งคาดว่าจะใช้ระยะเวลานานไม่ต่ำกว่า 1 เดือน หรือยาวไปถึง 180 วัน ตามกรอบระยะเวลาของกฎหมาย

บิ๊กโจ๊ก ลุยแหลกฟ้อง นายพล ต. อดีตตำรวจ ฐานรู้ดี รู้มาก แต่ไม่รู้จริง

ทั้งนี้ พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ ยังระบุอีกว่า ในพรุ่งนี้ ( 28 มิ.ย.67 ) เวลา 13.30 น. ตนจะเดินทางไปที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ เพื่อฟ้องดำเนินคดีกับ นายพล อดีตตำรวจ "ต."  ท่านหนี่ง ฐานเป็นผู้รู้ดี รู้มากแต่ไม่รู้จริง ทำให้ตนเสื่อมเสียชื่อเสียง