หลังถูกชุดปฏิบัติการพิเศษ DE บุกจับ "บังมัด คลองตัน" คาที่พัก พร้อมนำหมายศาล เป็นการขยายผลในการทลายเว็บพนันออนไลน์รายใหญ่ UEA8 ก่อนพบการเชี่ยมโยงมายัง นายวันชัย มะอินทร์ หรือ บังมัด คลองตัน อดีตนักโทษอุกฉกรรจ์ สืบเนื่องจากการสืบสวนขยายผลต่อเนื่อง ในการทลายเว็บพนันออนไลน์รายใหญ่ UEA8 เงินหมุนเวียน 4 พันล้านบาท
โดยเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2567 ได้ตรวจค้นตามหมาย พบนายสารสิทธิ์ (สงวนนามสกุล) ผู้ต้องหาตามหมายจับ และนายวันชัย หรือ “บังมัด คลองตัน” อยู่ในสถานที่ตรวจค้น และพบยาอีในที่เกิดเหตุ แต่ผู้หญิงซึ่งอยู่ในห้องกับ “บังมัด” ได้รับเป็นผู้ครอบครอง ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้สืบสวนขยายผล จนพบพยานหลักฐานที่เชื่อมโยงกับการกระทำความผิดกับ นายสารสิทธิ์ กับพวก ที่เกี่ยวข้องกับเว็บพนันออนไลน์ จึงออกหมายจับจนนำมาสู่การจับกุมในวันนี้
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาตามหมายจับศาลอาญาฐาน “ร่วมกันจัดให้มีการเล่น หรือทำอุบายล่อ ช่วยประกาศโฆษณาหรือชักชวน โดยซึ่งทางตรงหรือทางอ้อมให้ผู้อื่นเข้าเล่น หรือเข้าพนันในการเล่นทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์โดยไม่ได้รับอนุญาต นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน และร่วมกันฟอกเงิน” พร้อมยึดบัตรเอทีเอ็ม และโทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง เพื่อตรวจสอบข้อมูล ก่อนนำตัวผู้ต้องหา พร้อมของกลางส่ง สน.สามเสน เพื่อดำเนินคดีต่อไป
รู้จัก "บังมัด คลองตัน" คือใคร ประวัติ"บังมัด คลองตัน" จากอดีตนักโทษประหาร สู่ผู้ต้องหาคดีเว็บพนันรายใหญ่
โโยบังมัด คลองตัน หรือ วันชัย มะอินทร์ ศึกษาชันมัธยมศึกษากับโรงเรียนปทุมคงคา (ปทุมคงคา รุ่น88 ) สมัยในรั้วปทุมคงคา โดยข้อมูลจาก cops-magazine บังมัด มีทักษะฟุตบอล โดดเด่นร่วมรุ่นกับ กฤษดา เพี้ยนดิษฐ์ ทว่าสุดท้ายชะตาหักเหเกเรในวัยเพียง 15-16 ปี ต้องมาทิ้งความฝันเพราะไปก่อเหตุแทงคนเสียชีวิต
จากนั้นชีวิตก็พลิกผัน มารับงานยิงคนเพื่อพิสูจน์ตัวเอง ได้ไปอยู่กับคนใหญ่คนโต พึ่งใบบุญเป็นมือปืนในซุ้มป่าไม้คนดัง แห่งแม่สอด และก็มาสู่เส้นทางเด็กรับรถที่ บอสซี่ ผับ ใช้ชีวิตตระเวนท่องราตรีแทบทุกคืนแถวย่านรัชดาฯ
เส้นทางมือปืน มืออุ้ม บังมัด เริ่มเป็นที่รู้จัก ก่อนจะมีคนมาชักชวนให้รับงาน จ้างยิงคน บังมัดก็ตัดสินใจ รับงาน และ ชีวิตเขายิ่งเริ่มถลำลงลึกขึ้น แถมมีนายตำรวจคนหนึ่งคอยดูแลให้ไปขับรถ เพราะชอบในนิสัยใจคอ ก่อนขึ้นชั้นโด่งดังเข้าหูนักการเมืองท้องถิ่นของภาคเหนือตอนล่างภาคกลางตอนบน เรียกไปทำงานอุ้ม
บังมัด ก้าวขึ้นมาตั้งตัวเป็นบริษัทรับงานเอง รวบรวมสมัครพรรคพวกที่ไว้ใจ แต่มือดีเข้ามาอยู่ในทีม ตั้งก๊วนอุ้มพ่อค้ายาเสพติดอย่างเดียวเลย สมัยก่อนมันง่ายไม่มีกล้องวงจรปิด อุ้มเสร็จก็ไปทิ้งแถวอยุธยา สระบุรี แล้วคดีผมจะแก้ผ้าทุกศพ อำพรางให้เห็นว่าเป็นพวกแก๊งคนจีน หักหลังกันเอง
ชีวิตบังมัด ไม่เคยติดคุกเลย และเมื่อต้องมาติดคุกครั้งแรก ก็เจอโทษประหารชีวิตในคดีอุ้มนัยนา ไปจากห้องเช่า ซอยตากสิน 4 ทิ้งศพเปลือยใกล้น้ำตกเจ็ดสาวน้อย สระบุรี และคดีอุ้มชาคริต บริเวณสี่แยกไฟแดงใกล้ห้างดิเอ็มโพเรียม ถนนสุขุมวิท นำไปทิ้งในป่าริมถนนรังสิต องค์รักษ์ ส่วนคดีอื่นยกฟ้อง
บังมัด ถูกจองจำในคุกนาน 14 ปี 2 เดือน รอดพ้นหลักประหารกลายเป็นนักโทษชั้นดีได้รับอิสรภาพออกมาเมื่อปี 2559 ชีวิตในคุก บังมัดมองว่าสุขสบายกว่าข้างนอก หาเงินหาทองง่าย อะไรก็เป็นเงินไปหมด หลังพ้นโทษ บังมัดก็มีความคิดว่าจะเปลี่ยนตัวเอง คงไม่เอาตัวเองกลับไปตรงนั้นแล้ว อดีตนักโทษประหารค้นพบสัจธรรม ลูกเมียก็จะได้สุขสบาย ถือว่าชดใช้ทุกสิ่งทุกอย่างไปแล้ว 14 ปี
หลุดจากโทษประหารมาได้ ถือว่าจบแล้ว คำพิพากษาออกมาแล้วยังไม่โดนประหารก็ถึงที่สุดแล้ว ชีวิตผมหมดเวลากลัวแล้ว จะโดนยิงตรงไหน ตอนไหน ก็แล้วแต่พระเจ้า เขากำหนดเราหมด ผมก็ไม่ได้อาฆาตใครแล้ว มันจบไปหมด แต่ใครจะยังอาฆาตผม อันนี้ผมไม่รู้ตรงนี้ ปืนผมก็พกไว้เพื่อป้องกันตัว โดนจับก็ว่าไปตามเรื่อง ข้อหาพกพา ตามกฎหมายไป ชีวิตมาถึงตรงนี้ได้ ถือว่า มันไม่น่าเชื่อ อยู่ที่จังหวะดวงของผม
ที่มา cops-magazine.com