จากกรณีที่นายธรรศ อายุ 46 ปี หนุ่มใหญ่ซิ่ง BMW ชนแหลก เมื่อคืนวันที่ 5 ก.ค. 67 ที่ผ่านมา ส่งผลให้มีรถยนต์และรถจักรยานยนต์ได้รับความเสียหาย 6 คัน มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 9 คน อาการสาหัส 1 คน ล่าสุดหนุ่มใหญ่คนขับไหว้ขอโทษญาติผู้เสียหาย พร้อมชดใช้เยียวยาผู้บาดเจ็บ "อ้างสาเหตุ-โรคประจำตัว" ผลตรวจแอลกอฮอล์เผยว่าไม่พบปริมาณแอลกอฮอล์แต่อย่างใด
เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวล่าสุด พันตำรวจเอก รังสรรค์ สอนสิงห์ ผู้กำกับการสน.สายไหม เปิดเผยว่าจากการสอบปากคำในเบื้องต้น ผู้ต้องหา อ้างว่าเกิดอาการวูบ มีโรคความดันเป็นโรคประจำตัว โดยก่อนเกิดเหตุผู้ต้องหาได้เข้าไปที่บ้านแม่ ก่อนจะออกไปบ้านพักอีกหมู่บ้านหนึ่งซึ่งอยู่ห่างกัน 2 กิโลเมตร ส่วนการตรวจสอบสารเสพติดและแอลกอฮอล์ไม่พบ แต่จะส่งตัวไปที่โรงพยาบาลภูมิพลซ้ำอีกครั้ง
เบื้องต้นพนักงานสอบสวนแจ้ง 4 ข้อหา ดังนี้ ขับรถโดยประมาทเฉี่ยวชนรถผู้อื่นเสียหาย, มีผู้ได้รับอันตรายแก่กาย, ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัส, และขับรถเฉี่ยวชนแล้วหนี ส่วนจะถึงพยายามฆ่าหรือไม่นั้น อยู่ระหว่างการตรวจสอบรวบรวมพยานหลักฐาน
โดยเมื่อแจ้งข้อกล่าวหาเสร็จสิ้น พนักงานสอบสวนจะอนุญาตให้ประกันตัว เนื่องจากว่ามีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง สามารถติดต่อได้
ด้านนายธรรศ ผู้ก่อเหตุ ยอมรับว่า เมื่อคืนที่ผ่านมาตัวเองมีอาการเครียดและนอนน้อย เนื่องจากได้นอนเพียงวันละ 4 ชั่วโมง จึงทำให้เกิดอาการอ่อนเพลีย ประกอบกับมีอาการท้องเสีย จึงได้แวะเข้าห้องน้ำที่บ้านแม่ จากนั้นเมื่อขับรถออกจากบ้านแม่เพื่อกลับบ้านของตัวเองซึ่งอยู่ห่างไปประมาณ 2 กิโลเมตร
ขณะเดินทางออกจากบ้านแม่ที่บริเวณซอยสายไหม 86 เกิดอาการวูบ ไม่มีสติกว่าจะรู้ตัวอีกทีว่าขับรถชนผู้อื่นตอนที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยมาเจอ ตรงจุดสุดท้ายบริเวณถนนสุขาภิบาล 5 ซอย 73 ยืนยันไม่รู้ตัวว่าได้ขับรถชนผู้อื่นและรถยนต์คันอื่น ถึง 4 จุด รวมถึงได้ขับรถพุ่งชนไม้กันหน้าหมู่บ้านแม่อีก 1 จุด รวมเป็น 5 จุด โดยก่อนหน้านี้ตัวเองไม่เคยมีอาการแบบนี้มาก่อนซึ่งนี่เป็นครั้งแรก
ส่วนการดูแลเยียวยาผู้ได้รับบาดเจ็บและผู้เสียหายจากเหตุการณ์นี้นั้น นายธรรศ เปิดเผยว่า ตัวเองยินดีที่จะดูแลและเยียวยาผู้เสียหายทุกคนอย่างเต็มที่ ซึ่งหลังเกิดเหตุตัวเองได้เจอกับญาติผู้เสียหายและยกมือไหว้ขอโทษตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว
ด้านแฟนสาวของผู้ต้องหา เปิดใจว่า แฟนของตนมีโรคประจำตัวแค่โรคความดัน และที่ผ่านมาแฟนของคนทำงานหนักมาก ต้องคอยประสานงานกับลูกค้าที่อยู่ต่างประเทศ ซึ่งมีช่วงเวลาที่แตกต่างกัน ถ้าลูกค้าเรียกประชุมก็ต้องประชุมด่วน จึงทำให้แฟนของตนมีอาการอ่อนเพลีย ซึ่งที่ผ่านมาตนเคยเตือนด้วยความเป็นห่วงแล้ว แต่แฟนของตนก็ยืนยันว่าไม่เป็นไร ยังทำงานไหว
แฟนสาวขอยืนยันว่า แฟนของตนจะเยียวยาชดใช้ผู้เสียหายทุกคนอย่างเต็มที่ ดังนั้นขอให้ผู้เสียหายและญาติสบายใจได้เลย